[Spoil] THE IDOLM@STER Manga(MANA) - Yayoi(1)



THE IDOLM@STER Manga (Mana)
- Takatsuki Yayoi (1) -
เรื่องราวของ คาสุมิ ที่มี ยาโยย เป็นพี่สาวผู้เป็นไอดอลของ 765Pro
ในบทของยาโยยนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งตอนสั้นๆที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้

อ่านเวอร์ชั่นเต็มของตอนนี้ได้จาก Comic REX เล่มเดือน12 ใน niconico manga (หน้า35)
http://seiga.nicovideo.jp/watch/bk43020#playing




ครอบครัวของยาโยยยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
ยาโยยยังคงตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่ด้วยการเตรียมอาหารเช้า
และตามด้วยเหล่าน้องๆที่ค่อยๆทยอยตื่นกันมารับประทานอาหารเช้าร่วมกันก่อนไปโรงเรียน



คาสุมิ น้องสาวคนเดียวของยาโยยได้ไปโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนๆของเธอ ซึ่งเพื่อนๆของคาสุมิ
ก็บอกว่าช่วงนี้ได้เห็นพี่สาวของเธอทางทีวีมากขึ้น (เนื้อหาต่อจากช่วงคอนเสิร์ตแรกในอนิเมะ)
และเพื่อนๆของคาสุมิก็คิดว่าปีหน้าคาสุมิก็จะไปเป็นไอดอลเหมือนกันด้วยรึเปล่า
แต่คาสุมิไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย



ช่วงนี้ยาโยยจะกลับบ้านช้ากว่าปกติทุกวันด้วยเหตุจากงานที่เพิ่มมากขึ้น
แต่ได้เห็นความสำเร็จของพี่สาวที่พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แม่แต่น้องชายของยาโยยอย่างโจสุเกะ
ที่ตอนแรกคัดค้านกับการเป็นไอดอล มาตอนนี้ยังบอกให้ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่ของพวกเธอด้วยเลย
และถึงแม้จะงานยุ่ง แต่ยาโยยก็ยังคิดถึงเรื่องของทุกคนและทำอาหารอร่อยๆด้วยรอยยิ้มที่สดใสเสมอ
ทำให้คาสุมิภูมิใจในตัวพี่สาวของเธอมาก เธอจึงได้เขียนเรื่อง "พี่สาวของฉัน" ในการบ้านเรียงความด้วย



เมื่อยาโยยกลับมา คาสุมิก็ได้ขอให้พี่สาวของเธอพาไปให้เห็นการทำงานของไอดอลด้วยตาตัวเอง




โปรดิวเซอร์ได้ขออนุญาตให้ยาโยยพาเหล่าน้องๆมาเยี่ยมชมการออกอากาศทางทีวีวันนี้ได้
ในระหว่างที่คาสุมิกำลังตื่นตาตื่นใจกับอุปกรณ์แต่งตัวมากมาย จิฮายะก็ได้เข้ามาทักทายกับคาสุมิ
ส่วนเหล่าน้องชายเองก็ไปชื่นชมกับความสวยของทาคาเนะที่เหมือนกับเป็นเจ้าหญิงตัวจริง



เมื่อได้เวลาเตรียมตัว พวกผู้ชายจึงต้องออกจากห้องไปรอข้างนอกก่อน
เหลือคาสุมิเป็นสิทธิพิเศษเพราะเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกัน
คาสุมิจึงได้เห็นการแต่งหน้าทำผมแบบใกล้ชิดของไอดอลตัวจริง
และเห็นว่าพี่สาวของเธอเองก็สวยเหมือนเจ้าหญิงเหมือนกัน




หลังเตรียมตัวเสร็จแล้ว ยาโยยเห็นว่าผมของคาสุมิเริ่มยุ่งเหยิงเล็กน้อย จึงเรียกให้มาทำผมให้
ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือแม้แต่ตอนนี้ พวกยาโยยก็จะเตรียมตัวเเบบนี้ด้วยตัวเองเสมอ
ทำให้ยาโยยจำรูปแบบการดูแลจัดทรงผมได้หมดทุกคน อย่างเช่นจิฮายะจะมีทรงผมที่ยาวสลวย
หรือทาคาเนะที่มีผมสีเงินเป็นประกายสวยงาม




ทาคาเนะบอกว่าที่จริงแล้ว เธอเองก็เป็นพี่สาวคนโต เหมือนกัน เพราะเธอมีน้องสาวอยู่ที่บ้านเกิดอีกคน
ทุกคนเลยเเปลกใจ เพราะไม่ค่อยได้เห็นทาคาเนะเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังแบบนี้
ทาคาเนะจึงบอกว่าเพราะเห็นยาโยยกับน้องสาวแบบนี้ เลยทำให้อดคิดถึงไม่ได้
ยาโยยจึงหันไปถามจิฮายะว่าเป็นลูกคนเดียวรึเปล่า จิฮายะจึงบอกว่าเธอ มีน้องชาย อยู่
เเต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว และท่าทางจิฮายะไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่



ยาโยยเห็นว่าวันนี้มีแต่คนที่เป็นพี่สาวทั้งนั้นเลย
ทาคาเนะจึงตั้งชื่อทีมรวมพี่สาวนี้ว่า " ออลด้า ซิสเตอร์ " ด้วย
หลังจากนั้นเหล่าไอดอลทุกคนก็ได้ขึ้นสู่เวทีของจริง (เพลงในคราวนี้คือ Genki Tripper)
และพวกคาสุมิเองก็ได้เห็นความสดใสและสนุกสนานไปกับพวกพี่สาวของเธอด้วย



" พี่สาวของฉันคือไอดอลค่ะ..! และยังเป็นคนที่วิเศษมากที่สุดด้วย...  "



หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ คาสุมิก็ได้ค้นพบความฝันของตัวเอง
หลังจากนี้เธอเองก็จะพยายามเพื่อไปอยู่บนเวทีที่สดใสกับพี่สาวของเธอให้ได้ซักวัน
หัวใจดวงน้อยนั้นได้ผลิบานและมุ่งหน้าไปสู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่แล้ว

" ซักวันหนึ่ง ฉันกับพี่สาวจะไปอยู่บนเวทีที่เปล่งประกายด้วยกัน "


---------------------------------------------------------------------------------------------------------

[Spoil] Madoka - The different story(3) -END-


~The different story~
อีกเรื่องราวของพวกมาโดกะที่แตกต่างไปจากเดิม
ความหวังที่พังทลายจนเหลือเพียงความสิ้นหวังที่จะมีชีวิตอยู่
เรื่องราวทั้งหมดในช่วงเวลานี้ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว


เล่มสอง -  http://takumipgsky.exteen.com/20121028/spoil-madoka-the-different-story-2


*แปลมั่ว + โหลดโหดจ้ะ
(รูปไม่ขึ้นให้ลองเปลี่ยนเบราเซอร์แก้ขัดดูนะครับ)



"ถ้าสามารถขอพรได้หนึ่งอย่าง
ก็อยากจะขอปกป้องรักษาชีวิต
ของครอบครัวที่รักนี้เอาไว้"



มามิที่ได้มาเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์หลังสูญเสียครอบครัวไปก็ไม่เหลือใครอยุ่เคียงข้าง
เธอได้เล่าให้คิวเบย์ฟังว่าหลังจากนี้เธอต้องอยู่คนเดียว แต่คำปราถนาที่เธอต้องการมีชีวิตอยุ่ต่อไปนั้น
กลับไม่เป็นจริงทั้งหมด มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่รอดตายจากอุบัติเหตุได้
ทั้งๆที่เธอต้องการมีชีวิตอยู่กับพ่อเเม่และช่วยพวกท่านให้รอดจากเหตุการณ์นั้นด้วย

คิวเบย์ที่ฟังอยู่จึงบอกให้มามิต่อสู้ ต่อสู้ด้วยพลังที่มามิมีในตอนนี้
ต่อสู้โดยเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์และจัดการกับแม่มดเพื่อช่วยเหลือทุกคน




ในการต่อสู้ช่วงเเรกๆ ด้วยความที่ยังไม่เก่งกาจทำให้เธอลำบากพอสมควร
เเต่เมื่อได้เห็นผู้คนปลอดภัยจากเเม่มดแล้วกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติเธอก็สบายใจ
และทำให้มามิรู้สึกอยากใช้พลังนี้ปกป้องผู้คนในเมืองนี้




คุณมามิจึงต่อสู้เรื่อยมาพร้อมกับการใช้ชีวิตกับเพื่อนที่โรงเรียนตามปกติ
และถึงแม้เธอจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ที่ไม่มีเพื่อนเธอก็พยายามไม่คิดมากอะไร
จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่เธอได้พบกับคนที่ทำสิ่งที่เธอคิดว่าถูกต้องเหมือนกัน




ในวันนั้น มามิตกใจมากที่มีเด็กที่เพิ่งได้เจอกันมาขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์
เเต่เธอก็ดีใจมากเหมือนกันที่ไม่ต้องต่อสู้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
ในความดีใจเธอได้นึกถึงพ่อกับแม่และบอกพวกท่านว่าไม่ต้องเป็นห่วง
เธอมีเพื่อนที่จะร่วมต่อสู้กันปกป้องเมืองนี้ได้เเล้ว
แต่สุดท้าย เธอกลับไม่สามารถปกป้องและทำให้คนสำคัญอยู่เคียงข้างเธอได้อีกครั้ง



จนครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ยังไม่สามารถปกป้องใครไว้ได้อีก
มามิพยายามคิดว่า ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพื่อทุกคนเธอไม่มีสามารถเรียกร้องอะไรได้ทั้งนั้น




เเต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย มามิรู้ตัวดีว่าเธอไม่สามารถอดกลั้นน้ำตาและความเสียใจทั้งหมดเอาไว้ได้
สิ่งที่เธอพยายามมาตลอดมักจะสูญเปล่าทุกครั้ง ราวกับว่าความเชื่อมั่นในความถูกต้องของเธอนั้นมันผิดพลาดอยู่ตลอด




จนกระทั่งเธอได้เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ในที่สุดอีกฝ่ายก็เข้าใจ ในที่สุดเธอก็สามารถทำได้
เธอสามารถร่วมต่อสู้ไปพร้อมกับรุ่นน้องทั้งสองคนนี้ได้แล้ว แต่ทว่า...



"ขอบคุณนะคะ คุณมามิ ...แต่ว่า"



" ขอโทษนะคะ "




" ขอโทษนะ คุณมิกิ "




" ที่จริงแล้ว ฉันไม่ใช่มิตรแห่งความเที่ยงธรรมหรอก
ฉันคิดว่า ถ้าแสดงความรู้สึกที่ซื่อตร
งออกมามากกว่านี้
น่าจะทำให้ฉันได้วันคืนที่ส
นุกสนานกลับคืนมาแน่ๆ
แต่ฉันกลับ... ไม่สามารถรักษาชีวิตของคนสำ
คัญไว้ได้อีกแล้ว "





ในเวลาปัจจุบัน มาโดกะได้ตามหาซายากะจนได้มาเจอกับคุณมามิ



มาโดกะจึงไม่รอช้า ถามคุณมามิเรื่องซายากะทันที เเต่มาโดกะก็รู้สึกว่าคุณมามิเเปลกไป
คุณมามิเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่าเมื่อกี๊เธอได้พบกับซายากะแล้ว
ซายากะไม่เป็นไร ขอให้มาโดกะไม่ต้องเป็นห่วง

และคุณมามิยังบอกว่าเดี๋ยวเธอจะไปจัดการเเม่มดกับซายากะเเค่สองคนเท่านั้น
ครั้งนี้ขอให้มาโดกะไม่ต้องตามมา
มาโดกะก็เข้าใจและขอตัวกลับก่อนพร้อมกับรบกวนให้คุณมามิปกป้องซายากะเเทนเธอด้วย


"คือว่า คุณมามิคะ หลังจากนี้ก็ช่วยดูแลซายากะจังด้วยนะคะ"





"ฉันต้องขอโทษจริงๆนะ คุณคานาเมะ
ทั้งๆที่ฉันสัญญาว่าจะปกป้อ
งพวกเธอให้ได้เเท้ๆ..."



ทางด้านโฮมุระ ได้อธิบายเรื่องโซลเจมของสาวน้อยเวทย์มนต์ให้เคียวโกะฟัง
ถึงเรื่องที่มันหม่นหมองมากจากการโศกเศร้าหรือใช้พลังเวทย์มากเกินไป
จะทำให้สาวน้อยเวทย์มนต์กลายเป็นเเม่มดหากไม่หากรีฟซี้ดมาชำระล้าง




ยิ่งได้คิวเบย์มาช่วยยืนยัน เคียวโกะจึงต้องจำใจเชื่อว่าซายากะได้กลายเป็นเเม่มดไปแล้ว
แต่ยังไงเธอก็เป็นห่วงมามิและอยากไปที่เกิดเหตุเองอยู่ดี โฮมุระจึงได้ห้ามไว้อีกครั้ง
เพราะเคียวโกะอาจจะถูกมามิที่จิตใจมืดมัวไปแล้วฆ่าเอาได้ มามิตอนนี้แทบจะไม่เหลือความหวังอีกแล้ว
ถ้าไม่คิดตายไปพร้อมกับซายากะก็คงฆ่าตัวตายด้วยการสิ้นหวังจนกลายเป็นแม่มดไปแน่ๆ




เคียวโกะทนฟังไม่ไหวจึงเข้าไปต่อว่าโฮมุระ และบอกว่าเธอไม่สนใจว่าโฮมุระจะรู้เรื่องอะไรมากแค่ไหน
แต่มามิที่เธอรู้จักไม่ใช่อย่างที่โฮมุระว่า




โฮมุระจึงบอกว่าเพราะเคียวโกะ ไม่รู้เรื่องอะไรจึงพูดออกมาได้(ตอกย้ำแบบที่เคียวโกะเคยพูดกับพวกมาโดกะ)
และเธอก็ไม่อยากให้เคียวโกะทำเรื่องอะไรที่มันเปล่าประโยชน์ไปมากกว่านี้
เคียวโกะเองก็น่าจะรู้ดีที่สุดว่ามามิจริงๆนั้นเองก็ไม่อยากให้เคียวโกะเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายเหมือนกัน
เคียวโกะได้ยินดังนั้นจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมโฮมุระถึงพูดเหมือนรู้อะไมากขนาดนั้น
โฮมุระจึงบอกว่าเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาของเธอไม่เคยมีมามิในตอนนี้อยู่




เคียวโกะบ่นเล็กน้อยด้วยความที่ไม่เข้าใจและใช้จังหวะที่โฮมุระเผลอสร้างกำแพงเวทย์ป้องกันไม่ให้โฮมุระเข้ามาขวาง
และบอกว่าเเต่ไหนเเต่ไร เธอก็ไม่เคยไว้ใจโฮมุระตั้งแต่แรกอยู่แล้ว




เคียวโกะบอกอีกว่าถึงสิ่งที่โฮมุระพูดมาจะเป็นความจริง แต่เธอก็อยากไปดูด้วยตาตัวเอง
และบางที ถ้าเรื่องนี้จบลงด้วยดี พวกเธอก็อาจจะได้พรรคพวกไว้เผชิญหน้ากับ "เทศกาลเเม่มด" เพิ่มด้วยก็ได้
เมื่อพูดถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมฟังกัน โฮมุระก็รู้ดีว่าถึงเธอจะพยายามห้ามไว้แค่ไหนก็เปล่าประโยชน์
แล้ว

"งั้นก็ทำตามใจชอบเถอะ แต่อย่าทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดอีกเลย
สำหรับเธอแล้ว จะมองสิ่งที่ต้องปกป้องจริงๆผิดไปไม่ได้เด็ดขาด"




ทางด้านคุณมามิได้มาตามหาซายากะที่กลายเป็นเเม่มด แต่ก็ได้พบเคียวโกะที่เข้ามาขวางทาง



มามิบอกว่าเธอเตือนเคียวโกะแล้วว่าอย่าปรากฎตัวออกมาให้เห็นอีก
แต่เคียวโกะไม่สนใจและบอกว่าเธอจะขอจัดการเเม่มดตัวนี้เอง แต่คุณมามิปฎิเสธ
และบอกว่าคราวนี้เธอจะเป็นคนสะสางเรื่องทุกอย่างพร้อมกับการที่ตัวเธอจะตายตามไปด้วย




คุณมามิได้เเปลงเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์และขอให้เคียวโกะหลบไป
เพราะเธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องสู้กับสาวน้อยเวทย์มนต์ด้วยกัน




คุณมามิบอกต่ออีกว่าคนที่ทำให้ซายากะเป็นเเม่มดก็คือเธอเอง ทั้งที่เธอตั้งใจจะปกป้องผู้คน
แต่แล้วสาวน้อยเวทย์มนต์กลับเป็นแม่มดที่คอยทำร้ายผู้คนซะเอง และนี่คือความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของเธอ
เพราะงั้นเธอจึงคิดจะตายไปพร้อมกับซายากะด้วย และเคียวโกะก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี
เพราะเคียวโกะก็เป็นคนที่คิดว่าการสละชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัวและคนสำคัญนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมือนกัน




มามิขอเตือนให้เคียวโกะหลบไปอีกครั้งเ พราะเธอไม่อยากมีเรื่องด้วย
เคียวโกะจึงบ่นว่ามามิเป็นแบบนี้เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เพราะงั้นซายากะจึงเเยกวงไปเหมือนกันกับเธอ
และเคียวโกะก็ยืนกรานแน่วแน่ว่าเธอจะไม่หลีกทางให้เด็ดขาด

"ตอนนี้ฉันเองก็ปล่อยคุณที่เป็นแบบนี้ไปไม่ได้เหมือนกัน!"




"งั้นเหรอ? แล้วถ้าทำไม่ได้จะทำยังไงล่ะ?"
"วิธีแก้ปัญหาสำหรับสาวน้อยเวทย์มนต์ที่ไม่ลงรอยกัน มันก็มีแค่ทางเดียวไม่ใช่รึไง?"
"... นั่นก็จริงนะ"





" ก็ได้  ฉันจะใช้พลังแก้ไขปัญหาตามที่เธอต้องการเอง "




"ขอโทษด้วยละกันนะ จะไม่มีการออมมือเหมือนตอนนั้นอีกแล้ว
ฉันจะเอาจริงถึงตายเลยนะ ทำใจไว้รึยังล่ะ? คุณซากุระ?"


"...เฮอะ ไม่เลวนี่ ถ้าอยากลุยทำไมไม่ลุยเข้ามาเลยล่ะ?
แสดงออกมาให้เห็นเลยสิว่าการเตรียมใจของคุณมันมีมากแค่ไหน!
"





"ได้โอกาสพอดีเลย มามิกับชั้นที่ไม่มีการออมมือกัน มาตัดสินกันไปเลยดีกว่าว่าจริงๆแล้วใครเก่งกว่ากัน
ถ้าอยากไปที่ที่ซายากะอยู่ ก็ต้องขยี้ฉันให้ได้ก่อนล่ะ
นะ"





ทางด้านโฮมุระได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับคิวเบย์ คิวเบย์เห็นโฮมุระท่าทางเป็นห่วง
เพราะโฮมุระก็เเอบคิดว่าเคียวโกะเองก็เป็นพวกพ้องเหมือนกัน
แต่โฮมุระบอกว่าเธอไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเรื่องนี้ คิวเบย์จึงสงสัยว่าที่โฮมุระพยายามช่วยคนอื่นถึงขนาดนี้
เพราะมีเรื่องอะไรที่อยากช่วยแล้วเธอไม่สามารถช่วยไว้ได้รึเปล่า




โฮมุระนึกถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้น แต่เธอก็บอกกับคิวเบย์ว่าไม่มีอะไร
ภายในใจเธอรู้ดีว่าเรื่องนี้เธอไม่สามารถทำให้มันจบได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่เรื่องมามิคราวนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว คงต้องฝากความหวังให้เคียวโกะจัดการให้เท่านั้น


ส่วนทางด้านพวกเคียวโกะ ก็ได้เริ่มการต่อสู้กันอย่างดุเดือดแล้ว




"เฮอะ ยิงไปที่ไหนน่ะ..."




เคียวโกะที่ชะล่าใจกับการโจมตีของมามิก็พลาดถูกกับดักอย่างง่ายดาย
มามิยังคงพลิกเเพลงรูปแบบการโจมตีโดยสร้างเส้นลวดขึ้นมาเป็นกับดัก
แต่เคียวโกะเห็นว่าจนถึงตอนนี้มามิใช้พลังมากเกินไป เดี๋ยวคนที่แย่จะเป็นมามิเองมากกว่า




มามิไม่สนใจคำเตือนและโจมตีใส่เคียวโกะต่อไป เคียวโกะจึงพยายามฝ่าแนวโจมตีเข้าไป
พร้อมกับบอกให้มามิเลิกทำอะไรบ้าๆอย่างการใช้พลังรวดเดียวหมดแบบนี้ได้แล้ว








http://i1058.photobucket.com/albums/t409/pgexteen/The%20Different%203/madokatdsc_050.jpg
มามิโดนเล่นงานจนดูเหมือนจะเป็นฝ่ายพ่ายเเพ้
เคียวโกะยังคงบอกให้มามิเลิกพูดอะไรไม่สมกับเป็นตัวเองซะที
และเรื่องที่ซายากะเป็นแม่มดก็ไม่ใช่ความผิดของมามิ
มามิจึงประชดว่างั้นก็คงเป็นความผิดของเคียวโกะที่เป็นคนทำให้ความสุขของเธอพังทลายลงไป




มามิยังคงตอกย้ำตัวเองว่าเธอเป็นคนที่เลวมาก เพราะเธอพาคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาพัวพันด้วย
เธอจะเป็นแม่มดเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น และยังบอกว่าเคียวโกะเข้มเเข็งผิดกับเธอ
จึงไม่เเปลกที่เคียวโกะจะตีตัวห่างออกไป แต่กลับกัน เธอเชื่อว่าซายากะจะต้องเป็นคนที่เข้าใจเธอได้เเน่ๆ
เพราะงั้นเธอจึงตัดสินใจจะจบชีวิตอยู่กับซายากะที่นี่




"เธอเองก็อย่ามาขวางดีกว่านะ"

ว่าแล้วมามิก็ได้ยิงลาสช็อต (แบบกันดั้ม)
เพื่อให้โครงเหล็กมากมายหล่นมาใส่เคียวโกะ




มามิขอโทษเคียวโกะที่เธอต้องใช้วิธีแบบนี้



แต่แล้วพื้นที่ยืนอยู่ก็ได้พังลง
มามิจึงใช้ริบบิ้นยึดท่อนเหล็กไว้เพื่อไม่ให้หล่นลงไป




เคียวโกะที่เป็นคนทำลายพื้นก็ได้จับมามิไว้เพื่อไม่ให้มามิทำอะไรเกินกำลังอีก




แต่มามิกลับทำลายหอกของเคียวโกะแล้วใช้ริบบิ้นดึงเคียวโกะเข้ามาแล้วเตะออกไป
และจัดการจับเคียวโกะไว้จนไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก




"น่าเสียดายนะ... ตอบแทนที่ช่วยเมื่อกี๊จ้ะ"




ทางด้านมาโดกะ เธอได้นึกถึงทุกคน
เธอภาวนาและขอให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องมีใครทะเลาะกัน
ขอให้โฮมุระทำสิ่งที่ปราถนาได้สำเร็จ และขอให้เคียวโกะกับคุณมามิกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม





ทางด้านเคียวโกะ เธอได้เป็นฝ่ายพลาดท่าและพ่ายแพ้แล้ว
เคียวโกะบอกว่าเป็นอย่างที่โฮมุระว่าไว้จริงๆ ว่าถ้าเธอมาหามามิจะมีเรื่องอันตรายถึงชีวิต
เคียวโกะบอกต่อว่าเธอสู้กับมามิเพราะมามิที่เธอรู้จักไม่ใช่คนแบบนี้
แต่เธอก็บอกว่ามามิไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะคนที่หักหลังและทอดทิ้งมามิไปก็คือตัวเคียวโกะเอง




เคียวโกะก็รู้ตัวเองดีว่าเธอทำอะไรไป ทั้งๆที่มามิอุตส่าห์เชื่อใจ แต่เธอกลับไม่ยอมรับฟังอะไรเลย
และนี่คือผลลัพธ์ที่เธอสมควรได้รับแล้ว

"ป่านนี้แล้วยังคิดจะพูดอะไรอีกล่ะ? จะขอให้ไว้ชีวิตงั้นเหรอ?"

"ก็แค่.. อยากจะขอโทษเท่านั้นเอง"




"ขอโทษนะ คุณมามิ
ทำให้มันจบตามที่คุณต้องการเถอะ"

"ได้สิ... จะยิงเดี๋ยวนี้เเหละ"








"รอก่อนนะ"



แต่คุณมามิที่กำลังจะเข้าไปในเขตเเดนก็ได้ล้มลง เพราะเธอใช้พลังไปจนหมดแล้ว
คิวเบย์มาช่วยตอกย้ำว่าโซลเจมของมามิหม่นหมองไปแล้ว อีกไม่นานมามิก็คงจะกลายเป็นเเม่มดไปอีกคน
คุณมามิจึงนึกขอโทษซายากะที่เธอไม่สามารถไปช่วยได้
จากผลลัพธฺทั้งหมด แม้แต่ในวาระสุดท้ายก็ทำให้เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอยู่ดี




ในอดีต คุณมามิเคยแข่งประลองฝีมือกับเคียวโกะบ่อยๆ
แต่เคียวโกะมักจะเเพ้ทุกครั้งเพราะการพลิกแพลงใช้ริบบิ้นของคุณมามิ




อันที่จริงแล้วคุณมามิก้คิดว่าเวทย์ลวงตาเเยกร่างของเคียวโกะเองก็สามารถ
นำมาพลิกแพลงหาวิธีใช้ได้เหมือนกัน ถึงจะไม่ได้บอกออกมาตรงๆ แต่คุณมามิก็ยินดีที่จะช่วยแนะนำ
และสอนหลายๆอย่างให้เพื่อที่เคียวโกะจะได้เป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์ที่เก่งขึ้นกว่าเดิม




แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณมามิติดใจคือ เคียวโกะกลับพูดเหมือนลำบากใจที่จะเรียกว่าคุณมามิว่าเป็นเพื่อนกันกับเธอ
แต่เคียวโกะที่เหมือนอยากจะพูดอะไรต่อก็ไม่ได้พูดออกมา ทำให้คุณมามิคิดว่าจริงๆแล้วเคียวโกะเอง
ก็คงไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ สิ่งที่เธอเรียกว่า "เพื่อน" นั้นเป็นสิ่งที่คนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างเธอคิดไปเองเท่านั้น





"งั้นก็พอแค่นี้ดีมั้ย? ไม่จำเป็นต้องพยายามทำเรื่องที่มันเปล่าประโยชน์อีกแล้วล่ะ
ไม่ว่าจะพยายามยังไง ทุกคนก็ไม่ตอบรับความพยายามของมามิหรอก
มามิถูกทิ้งไว้คนเดียวเพราะทุกคนเย็นชากับเธอไงล่ะ
...แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันค้นพบหนทางอันแสนวิเศษที่ทำให้ไม่ต้องอยู่คนเดียวแล้วล่ะ"




" สร้างโลกในอุดมคติขึ้นมาซะเลยสิ
เพื่อนในอุดมคติที่จะไม่ทอด
ทิ้งมามิไปอีกไงล่ะ

ไม่ใช่เพื่อนที่บอกว่า เราไม่
ใช่เพื่อนกัน อย่างคุณซากุร
ไม่ใช่เพื่อนที่ทอดทิ้งเธอไ
ปอย่างคุณมิกิ
ลืมช่วงเวลานั้นไปแล้วมาดื่มชากับทุกคนอย่างสนุกสนานกันเถอะ

ใช่แล้ว... ถ้าฉันเป็นแม่มดไปซะ ทุกคนก็จะอยู่ข้างกายฉันตลอ
ดไป... "





"ตกใจเหรอ? รู้สึกตัวแล้วสินะ"



คุณมามิได้สติขึ้นมาพบว่าเธอกับเคียวโกะยังมีชีวิตอยู่
แท้จริงแล้วเคียวโกะได้พลิกเเพลงใช้ร่างเเยกของเธอเป็นตัวหลอกให้ดูเหมือนเธอแพ้และโดนจัดการไปแล้ว




เคียวโกะได้เข้าไปคุยกับคุณมามิที่ไม่มีกรีฟซี้ดติดตัวและนอนหมดสภาพซึ่งผิดกับรุ่นพี่ที่เธอเคยรู้จัก
คุณมามิก็บอกว่าเธอเองก็ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเคียวโกะเลย
ตอนนี้เธออยากจะคุยกันตรงๆเป็นครั้งสุดท้าย




คุณมามิบอกว่าเธออยากมีเพื่อน และเธอก็อยากเป็นเพื่อนกับเคียวโกะมาตลอด
ไม่ใช่ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่เธอก็ไม่ได้เเสดงความรู้สึกนั้นออกมา




แล้วคุณมามิก็ยังแซวเคียวโกะเรื่องการรู้จักใช้เวทย์แยกร่างของเคียวโกะมาหลอกล่อศัตรู
แต่ก็ยังดูไม่แนบเนียนเท่าไหร่เพราะคุณมามิรู้อยู่เเล้ว เพราะ รอซโซ่ เเฟนทาสม่า น่าจะเป็นท่าที่ใช้ได้ดีกว่านี้
ถ้าเคียวโกะทำตามที่เธอเคยสอนไป




แต่คุณมามิก็ได้บอกว่า ต่อให้เข้มเเข็งมากขนาดไหนก็ย่อมมีจุดอ่อนอยู่ดี
เพราะงั้นพวกเธอจึงไม่สามารถที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้
มามิจึงเชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจพึ่งพาซึ่งกันและกัน
เมื่อทุกคนร่วมต่อสู้ไปด้วยกันก็จะสามารถทดแทนในสิ่งที่ใครคนหนึ่งทำไม่ได้ได้




แต่สำหรับเธอมันจบสิ้นแล้ว โซลเจมของมามิยังคงหมองคล้ำขึ้นเรื่อยๆ
ถึงอย่างงั้นคุณมามิก็ยังเชื่อมั่นว่าถ้าเป็นเคียวโกะจะต้องช่วยซายากะได้แน่ๆ
เธอจึงได้ขอให้เคียวโกะสนิทกับทุกคนเอาไว้และขอให้ปกป้องเมืองนี้แทนเธอด้วย




เคียวโกะไม่ยอมรับที่มามิพูดเหมือนคนยอมแพ้อย่างหมดอาลัยตายอยากแบบนี้
และบอกว่าเธอไม่สามารถทำตามที่มามิขอร้องได้ เคียวโกะยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ
และเธอไม่อยากให้มามิรับผิดชอบเรื่องทุกอย่างคนเดียว
แต่มามิก็บอกว่าถ้าเป็นแม่มดไปแล้ว ทุกคนก็ต้องตายไม่ใช่รึไง (ประโยคเด็ด)

"พอทีเถอะ... ขอร้องล่ะ ให้ฉันตายเถอะ!
คนที่ไม่มีใครช่วยอย่า
งฉันน่ะ อยู่ไปก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว!"





" จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะ!
ถ้าคนที่จะช่วยก็อยู่ที่นี่
แล้วไง! ก็คุณน่ะ สำหรับฉันแล้ว
โทโมเอะ มามิน่ะ เป็นครอบครัวคนสุดท้ายของฉั
นนะ "




สำหรับเคียวโกะแล้ว การที่เรียกมามิว่า "เพื่อน" นั้นอาจจะดูเเปลกไปซักหน่อย
เพราะสำหรับเธอแล้ว มามิเป็นเหมือนพี่สาวของเธอจริงๆ เธอจึงรู้สึกว่ามามิเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวด้วย




ย้อนกลับไปตอนที่ครอบครัวของเคียวโกะรู้ความจริง
ถึงแม่ของเคียวโกะจะพยายามช่วยปลอบใจลูกสาวที่พยายามทำเพื่อทุกคน
แต่ผู้เป็นพ่อกลับเปลี่ยนไปทันที เขาเริ่มทำร้ายคนในครอบครัว ไม่มีคุณพ่อที่แสนใจดีอยู่อีกแล้ว




ในช่วงที่จิตใจดำดิ่งสู่ความมืดมิด เคียวโกะก็ได้นึกถึงมามิ
ถ้าในตอนนั้นเคียวโกะไม่ได้พบกับมามิ เธอก็คงจะกลายเป็นแม่มดไปแล้ว
ถึงจะไม่ใช่ครอบครัวกันจริงๆ แต่มามิก็ได้ช่วยหยุดชีวิตที่น่าเศร้าของเคียวโกะในตอนนั้นไว้
ทำให้เคียวโกะไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป




เคียวโกะได้ใช้กรีฟซี้ดชำระล้างความโศกเศร้าจากโซลเจมของมามิให้หายไป
และบอกว่าสิ่งที่เธอทำลงไปนั่นก็เพราะ เธอเองก็อยากปกป้องความสุขของมามิ
ที่เป็นครอบครัวคนสุดท้ายของเธอเหมือนกัน แต่เธอก็คงต้องขอโทษที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวายอีกครั้ง
แต่ในตอนนี้ เธอได้ช่วยมามิที่เป็นคนสำคัญของเธอให้ปลอดภัยไว้ได้ แค่นี้เธอก็ดีใจแล้ว




และจากนี้เคียวโกะจะไปหาซายากะคนเดียว มามิอยากไปช่วยด้วย
แต่เธอฝืนร่างกายมากเกินไปจนยังขยับตัวไม่ได้ มามิจึงขอให้เคียวโกะสัญญาว่า
อย่าทำให้เธอที่เป็นครอบครัวคนสุดท้ายของเคียวโกะต้องเป็นห่วงอีกเป็นครั้งที่สอง




เคียวโกะไม่ตอบอะไร แต่ได้ให้โบว์ของเธอไว้กับมามิและบอกว่านี่เป็นของสำคัญของเธอ
และเธอให้กับมามิไว้เป็นหลักประกันว่าเธอจะไม่ตาย และขอให้มามิไม่ทิ้งความหวังไปอีกเหมือนกัน

" ฉันสัญญาจ้ะ... ไว้กลับมาแล้ว ไปกินเค้กกับทุกคนกันเถอะนะ"




"คราวนี้ฉันเป็นฝ่ายแพ้ละกันนะ
ถ้ากลับมาได้อย่างปลอดภัย ไว้มาแข่งกันเหมือนตอนนั้นอีกนะ
แล้วถ้าคราวนี้ฉันชนะคุณได้
ฉันก็มีเรื่องที่อยากจะขอร้องคุณด้วยเหมือนกัน"




"เพื่อนงั้นเหรอ... สุดท้ายแล้วฉันก็ยังเข้ากับเธอไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ"



เคียวโกะพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเเม่มดด้วยตัวคนเดียวพร้อมกับนึกขอโทษมาโดกะ
ขอโทษที่เธอสัญญาว่าเธอจะช่วยซายากะแต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย





"นี่ พระผู้เป็นเจ้า ทั้งการช่วยเหลือโลกใบนี้ ทั้งการปกป้องความสุขของทุกคน
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเลียนแบบพ
ระเจ้าหรอกนะ ฉันก็แค่ ซื่อตรงต่อครอบครัว
และอยากจะช่วยเพื่อนเท่านั้
นเอง

ก็แค่อยากเป็นฮีโร่แห่งความ
ยุติธรรมบ้างแค่นั้นเอง"




"ช่วยฟังหน่อยสิ... คุณพ่อ
วันนี้หนูก็ปราบแม่มดได้อีก
แล้วล่ะ หนูช่วยคนที่คิดจะฆ่าตัวตายได้อีกคนนึงเลยนะ"




"แบบนี้น่ะ... มันเป็นเรื่องที่ผิดงั้นเหรอ"





ในเวลาต่อมา มามิได้ฟื้นขึ้นในห้องของเธอเอง และเธอได้พบกับมาโดกะและโฮมุระที่ช่วยเธอไว้



มาโดกะบอกว่าโฮมุระได้ไปช่วยมามิที่นอนสลบอยู่คนเดียว
คุณมามิจึงถามถึงคนอื่นๆนอกจากเธอว่าพบเห็นใครบ้างอีกรึเปล่า
แต่โฮมุระก็บอกว่าไม่เห็นใคร ซายากะก็ได้กลายเป็นแม่มดไปแล้ว
แต่กับเคียวโกะไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง




คุณมามิเห็นมาโดกะท่าทางไม่สบายใจเมื่อจะต้องรู้ความจริงว่าซายากะเป็นเเม่มดไปแล้ว
เธอจึงกลบเกลื่อนทำเป็นเพิ่งรู้เรื่องและเเอบขอคุยกับโฮมุระเเค่สองคน
ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่อยากให้มาโดกะรู้เรื่องนี้ โฮมุระจึงบอกให้มาโดกะกลับไปก่อน




เมื่อมาโดกะไปแล้ว โฮมุระก็มีเรื่องที่จะคุยด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือเธออยากให้มามิร่วมมือกับเธอ



โฮมุระได้เล่าเรื่อง "ค่ำคืนของเทศกาลแม่มด" ให้คุณมามิฟัง
รวมถึงเรื่องที่โฮมุระเคยเตรียมพร้อมรับมือกับเคียวโกะด้วย




คุณมามิได้จึงบอกว่าเมื่อก่อนเธอก็เคยร่วมมือกับเคียวโกะและคิดที่จะต่อสู้กับเทศกาลเเม่มดเพื่อปกป้องเมืองนี้ด้วยกันเหมือนกัน และก่อนจากกัน เคียวโกะได้สัญญากับเธอไว้แล้วว่าจะไม่จากไปอีก โฮมุระจึงยิ่งลำบากใจ เพราะตอนที่เธอไปเจอมามิ เธอไม่พบเคียวโกะในบริเวณโดยรอบหรือเเม้เเต่ที่ที่ซายากะอยู่เลย
แต่คุณมามิก็ทำท่าทางไม่เชื่อและคิดว่าโฮมุระปกปิดอะไรบางอย่างไว้
โฮมุระจึงขอให้คุณมามิลองนึกถึงตอนที่สู้กับเคียวโกะอีกครั้ง




เมื่อลองนึกดูแล้ว คุณมามิถูกเคียวโกะชำระล้างโซลเจมให้จริงๆหรือถูกเคียวโกะใช้เวทย์ลวงตาหลอกให้คิดอย่างงั้นกันแน่ เคียวโกะเองก็ได้ใช้พลังในการสู้กับคุณมามิไปเยอะเหมือนกัน แล้วเคียวโกะจะไปหากรีฟซี้ดมาจากไหนอีกถ้าไม่จัดการซายากะเพื่อนำกรีฟซี้ดมาและเอามาให้มามิ แต่ยังไงก็เคียวโกะไม่มีกรีฟซี้ดเหลืออีกแล้ว
เท่ากับว่าดอกาสรอดของเคียวโกะนั้นมีน้อยมาก


คิวเบย์ออกมาช่วยยืนยันอีกเสียง คุณมามินึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นคิวเบย์ตามเคียวโกะไป
เพราะงั้นคิวเบย์น่าจะรู้เหตุการณ์ คิวเบย์จึงบอกว่าเขาอยู่ในเหตุการณ์เเน่นอน
รวมถึงตอนที่ซายากะกับเคียวโกะจากไปด้วย




ย้อนกลับไปตอนที่เคียวโกะนำกรีฟซี้ดมาช่วยมามิและปล่อยให้โซลเจมของตัวเองหม่นหมอง
ก่อนจากไปคนเดียว เคียวโกะได้บอกว่าเธอไม่ได้สนใจเรื่องของเทศกาลแม่มดเลย
เธอแค่อยากจะช่วยเพื่อนเท่านั้นเอง แต่เคียวโกะก็สงสัยว่าถ้าเธอยอมขอโทษในสิ่งที่เคยทำไปตั้งแต่เเรก
เธอจะมีความสุขอยู่กับทุกคนได้จริงๆรึเปล่า แต่เธอก็เชื่อว่าไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องนี้กันอีกแล้ว
ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป ซักวันเธอคงจะกลับมาอย่างเเน่นอน




คิวเบย์ที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังก็บอกว่าเคียวโกะเองก็ทำอะไรบ้าๆเหมือนกันที่ไม่ยอมหากรีฟซี้ดมารักษาตัวเอง
แต่ถ้าเคียวโกะกับมามิเป็นแม่มดไปก็อาจจะดีก็ได้ โฮมุระได้ยินที่คิวเบย์พูดก็คิดจะจัดการคิวเบย์
เเต่คุณมามิกลับใช้เวทย์เรียกปืนออกมาเพื่อจะยิงคิวเบย์ที่คิดล้อเล่นกับชีวิตของพวกเธอ
คิวเบย์จึงบอกว่าเขาเเค่ทำความปราถนาของพวกมามิให้เป็นจริงเท่านั้น
แต่คุณมามิก็ยอมรับไม่ได้ที่ความปราถนาในการมีชีวิตอยู่ต่อไปของเธอต้องแลกมาด้วยการเสียเพื่อนคนสำคัญไป



คิวเบย์จึงสงสัยว่าทำไมมามิต้องยึดติดกับความเป็นความตายของคนอื่นถึงขนาดนั้น
เพราะมามิเองก็สังหารสาวน้อยเวทย์มนตร์ที่เป็นเเม่มดไปจำนวนมากเพื่อมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้
คุณมามิที่โดนตอกย้ำจึงรู้สึกโศกเศร้ามากยิ่งขึ้นและคิดว่าสิ่งที่คิวเบย์พูดนั้นถูกต้องแล้ว
เธอสู้เพื่อตัวเองโดยอ้างความยุติธรรมมาตลอด ทั้งที่จริงๆเเล้วคนที่ควรจะได้รับการช่วยเหลือให้มีชีวิตอยู่ต่อไป
น่าจะเป็นคนอื่นมากกว่า




โฮมุระที่ฟังมามิกำลังโทษตัวเองและไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วก็ได้ลุกขึ้นมาตบหน้ามามิให้ได้สติ



โฮมุระบอกมามิว่ามามิอยากตายเพียงเพราะไม่มีใครอยู่เคียงข้างอีกแล้วแค่นั้นเองงั้นเหรอ
โฮมุระเชื่อว่าถ้ามีชีวิตอยู่และปราบแม่มดต่อไปก็ยังสามารถที่จะช่วยอีกหลายๆชีวิตได้
แต่ถ้าพวกเธอไม่สามารถปราบเทศกาลแม่มดลงได้ ชีวิตของทุกคนก็จบลงแค่นี้
ซึ่งถ้ามามิยอมเเพ้หรือตายไปตอนนี้ ทุกอย่างที่มามิพยายามทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่าเหมือนกัน




ไม่ว่าใครก็มีเรื่องที่ทำได้เเละทำไม่ได้อยู่ โฮมุระเองก็สูญเสียเพื่อนที่เธอรักไป
เธอเคยรับรู้ความเจ็บปวดและขีดจำกัดของตัวเอง
เเต่เธอก็ยังพยายามมีชีวิตต่อไปตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้กันไว้




ถึงจะมีใครตายจากไป แต่ความรู้สึกของแต่ละคนก็ยังคงหลงเหลืออยู่
ถ้ามีสัญญาที่ได้ให้กันไว้ก็ต้องทำให้มันเป็นจริง โฮมุระรู้ดีว่าตัวเธอเองก็ต้องรับผิดชอบที่ช่วยใครไว้ไม่ได้
เพราะมีบางชะตากรรมที่เธอไม่สามารถช่วยไว้ได้จริงๆ เพราะงั้นครั้งนี้เธอจึงไม่อยากให้มามิหรือใคร
ทำอะไรโดยเปล่าประโยชน์อีก




เมื่อเรื่องสงบ โฮมุระได้ขอโทษที่เธอทำอะไรเกินไป คุณมามิก็ขอโทษเพราะเป็นความผิดของเธอเอง
โฮมุระจึงเเอบหลุดพูดออกมาว่าความจริงแล้วมามิเองก็เคยเป็นคนสอนเธอให้เข้มเเข็งมาตลอดเหมือนกัน
ก่อนที่โฮมุระจะกลับ เธอได้ขอให้มามิเก็บเรื่องที่คุยกันไว้เป็นความลับกับมาโดกะ
และวันพรุ่งนี้เธอหวังว่ามามิจะให้คำตอบที่น่ายินดีกับเธอได้




เมื่อโฮมุระกลับไปแล้ว คิวเบย์ก็ได้เข้ามาพูดกับคุณมามิที่ครุ่นคิดอยู่คนเดียว
คุณมามิจึงบอกคิวเบย์ว่าเธอขออยู่คนเดียวก่อน
คิวเบย์เข้าใจที่มามิขอ
เเต่ดูเหมือนว่ามามิจะไม่ได้อยู่คนเดียวตามที่ต้องการซักเท่าไหร่
เพราะมาโดกะยังคงรอคอยมามิอยู่ที่หน้าประตู




มาโดกะบอกว่าที่เธอยังไม่กลับบ้านเพราะมีเรื่องที่อยากจะบอกคุณมามิ
เป็นเรื่องที่เธอยังไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งซายากะ นั่นก็คือก่อนหน้านี้มาโดกะได้พบและพูดคุยกับเคียวโกะ
และเธอเองก็อยากจะเป็นเพื่อนกับเคียวโกะด้วยเหมือนกัน




มาโดกะได้ไปพบเคียวโกะหลังจากวันที่พวกเคียวโกะกับโฮมุระมาช่วยพวกเธอ
แต่เคียวโกะก็บอกให้มาโดกะไปขอบคุณโฮมุระเถอะ เพราะเธอเเค่มาจัดการเเม่มดเท่านั้น
แล้วเคียวโกะก็ให้เธอเรียกด้วยชื่อจริงก็ได้ เพราะท่าทางมาโดกะจะชอบเรียกแบบนั้นมากกว่า
แต่ไม่นานนัก ความเงียบก็ได้มาหาทั้งคู่ ต่างคนต่างไม่รู้จะคุยอะไรกัน มาโดกะพยายามจะหาเรื่องชวนคุย
แต่กลับเป็นฝ่ายเคียวโกะที่เปิดปากถามก่อนว่าทำไมมาโดกะถึงติดตามพวกมามิหรือซายากะอยู่ตลอด
ทั้งๆที่ยังไม่ได้คิดจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์จริงๆจังๆ
เลย



มาโดกะบอกว่าเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เธอรู้จักกับซายากะมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว
และซายากะก็มักจะคอยช่วยเหลือเธอที่อ่อนเเอเสมอ แต่มาโดกะก็รู้ดีว่าเธอจะเป็นเเบบนี้ต่อไปไม่ได้
เธอเองก็อยากช่วยเหลือคนอื่นและไม่อยากเป็นภาระแบบนี้ต่อไปเหมือนกัน
และในตอนที่เธอคิดแบบนี้อยู่นั่นเอง ก็เป็นช่วงที่เธอได้พบกับรุ่นพี่ที่แสนดี




จากการพบกันของพวกมาโดกะกับมามิ
ทำให้มาโดกะได้รู้เรื่องสาวน้อยเวทย์มนตร์ที่มีพลังสามารถปกป้องคนอื่นได้จากคิวเบย์
มาโดกะจึงคิดว่าถ้าเธอเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ เธอก็คงจะปกป้องคนอื่นเหมือนอย่างคุณมามิหรือซายากะได้
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ทำ และกลับกลายเป็นซายากะที่เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์เเทน




ซายากะเป็นคนที่พึ่งพาได้ ไม่นานนักเธอก็ได้ร่วมทีมกับคุณมามิ
เเต่ภายในใจมาโดกะนั้นอยากจะบอกทั้งสองคนว่าเธอเองก็อยากจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์เหมือนกัน
เเต่เธอก็กลัวจนไม่สามารถพูดออกมาได้




เคียวโกะเห็นมาโดกะเล่าเรื่องของตัวเองและเริ่่มจะร้องไห้ออกมา จึงได้ชวนให้มาโดกะกินขนมด้วยกันกับเธอ
เคียวโกะเห็นว่ามาโดกะเองก็พอได้ยินเรื่องของเธอจากคุณมามิมาบ้างแล้ว
เธอจึงเล่าถึงเรื่องที่เป็นลูกศิษย์มามิ แต่เธอกลับทิ้งมามิไปโดยไม่ได้บอกเหตุผลอะไรซักอย่าง




เคียวโกะเองก็อยากให้คุณมามิได้พบเพื่อนใหม่ เเต่เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเธอกลับมีปากเสียงกันอีกครั้ง
และเธอก็ยอมรับว่าจริงๆแล้วเธอไม่อยากทำแบบนั้นหรอก... เมื่อมาโดกะได้ฟังเรื่องของเคียวโกะบ้าง
เธอก็เข้าใจและบอกว่าเธอคิดว่าที่จริงแล้วเคียวโกะก็ไม่ใช่คนที่ชอบเเกล้งคนอื่นเลย




มาโดกะเข้าใจแล้วว่าเคียวโกะเองก็เป็นห่วงเรื่องของซายากะกับคุณมามิเหมือนกัน
เธอจึงขอโทษที่ห่วงไม่เข้าเรื่อง เคียวโกะก็บอกให้มาโดกะไม่ต้องคิดมาก
เเต่ขอให้เก็บเรื่องที่คุยกับเธอวันนี้ไว้เป็นความลับ
มาโดกะก็ยินดีและบอกว่าตอนนี้เธอกับเคียวโกะเป็นเพื่อนกันอย่างลับๆแล้ว
และหลังจากนั้น มาโดกะก็เเอบมาเจอและพูดคุยกับเคียวโกะเพื่อเพิ่มความสนิทสนมกัน




มาโดกะกับเคียวโกะต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งมาโดกะที่เล่าเรื่องซายากะที่ชอบแกล้้งเธอเสมอ
หรือเคียวโกะที่เเอบนินทาคุณมามิที่ชอบทำอะไรเว่อร์ๆเหมือนจะสมบูรณ์แบบ
แต่ก็มักจะพลาดบางอย่างไปโดยไม่รู้ตัวเสมอ เคียวโกะรู้สึกดีที่ได้มาคุยกับมาโดกะเเบบนี้
เพราะเธอได้เปลี่ยนมุมมองหลายๆเรื่องรวมถึงเรื่องของซายากะที่เธอเคยมองผิดไป
ส่วนมาโดกะก็ได้รู้ว่าสำหรับเคียวโกะเเล้วคุณมามิสำคัญขนาดไหน



มาโดกะอยากให้เคียวโกะกลับมาคืนดีและร่วมมือกับทุกคน แต่เคียวโกะรู้สึกว่าเธอทำแบบนั้นไม่ได้
เพราะเธอไม่ใช่ผู้ผดุงคุณธรรมที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อช่วยคนอื่นอีกแล้ว แต่มาโดกะก็ยังคงเป็นห่วง
เพราะเธอรู้ว่าจริงๆแล้วเคียวโกะเองก็คงอยากกลับไปคืนดีกับทุกคน และคุณมามิก็คงรอการกลับมาของเคียวโกะอยู่เเน่ๆ
ถ้าได้คุยทำความเข้าใจกันทุกคนน่าจะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีได้เหมือนเดิม
แต่เคียวโกะก็บอกให้มาโดกะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของพวกเธอ
และเรื่องของคุณมามิกับซายากะเธอก็จะหาทางทำอะไรซักอย่างเอง




มาโดกะขอโทษคุณมามิที่เธอเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะเธออยากให้ทุกคนคืนดีกันจึงทำแบบนั้น
แต่ในตอนนี้เธอรู้เเล้วว่าตัวเองต้องทำอะไร มาโดกะได้ตัดสินใจที่จะเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์เพื่อช่วยซายากะ เพื่อช่วยเพื่อนคนสำคัญของเธอ




มาโดกะรู้เรื่องที่ซายากะเป็นแม่มดแล้ว ทั้งๆที่เธอเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด
แต่ในตอนนั้นเธอกลับทอดทิ้งซายากะให้คุณมามิจัดการ ถ้าเธอไปด้วยซายากะอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็ได้
คุณมามิไม่เห็นด้วยถ้ามาโดกะจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์เพื่อช่วยซายากะ
เพราะสิ่งที่ต้องแบกรับตามมานั้นมีมากมายกว่าที่มาโดกะคิด
แต่มาโดกะก็บอกว่าเธอไม่ได้แค่อยากเป็นสาวน้อยเวทย์เพื่อช่วยซายากะคนเดียว
เเต่เธออยากช่วยเหลือมามิและเด็กสาวทุกคนด้วย




มาโดกะเข้าใจดีว่าการเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป ทั้งเจ็บปวด ทรมาน
และต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว แต่สิ่งที่มาโดกะได้รู้มาก็คือ ทั้งๆที่เป็นอย่างงั้น
คุณมามิก็ยังตงต่อสู้เพื่อพวกเธอและเพื่อทุกคนมาโดยตลอดทั้งๆที่จริงๆแล้วเธอก็ไม่อยากทำร้ายใครเลย
ไม่มีใครที่จะมาคอยพูดทักทายยามเช้า ไม่สามารถสนุกสนานกับเพื่อนๆในห้องเรียนได้
ทั้งๆที่นั่นเป็นสิ่งที่คุณมามิต้องการมาตลอด แต่เพราะเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์จึงไม่สามารถมีความสุขแบบนั้นได้




ทว่า ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนเเปลงและนำมันกลับคืนมาแล้ว มาโดกะจะต่อสู้เพื่อมามิเอง
เมื่อได้ฟังความปราถนาของมาโดกะ คุณมามิก็ร้องไห้ออกมา เพราะเธอยังเหลือคนที่พร้อมจะช่วยเหลือ
และเข้าใจเธอมากถึงขนาดนี้ คนที่เธอสามารถเเสดงความรู้สึกที่แท้จริงทั้งหมดที่เก็บซ่อนไว้มานานได้
อย่างจริงใจ



"ฉันไม่อยากต่อสู้อีกแล้ว! ฉันไม่อยากเข่นฆ่าแม่มดเลยซักนิดเดียว! ฉันน่ะ..."

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณมามิ
ขอบคุณที่ช่วยทุกคนในเมืองนี้มาตลอด
ขอบคุณที่ช่วยปกป้องพวกเราน
ะคะ"



ในที่สุดมามิก็สามารถแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
ทว่า เงาร้ายที่แฝงตัวอยู่นั้นกลับยินดีที่จะนำพาความสิ้นหวังให้มาถึงมากยิ่งกว่า



" ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกมามิ
เพราะ คานาเมะ มาโดกะ มีพลังที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเธอซะอีก "




ในเวลาต่อมา พวกมาโดกะได้เตรียมพร้อมสู้ศึกสุดท้ายกับความสิ้นหวังที่ปกคลุมผู้คนในเมืองอยู่
นตอนนี้ คนที่แบกรับความหวังทั้งหมดเพื่อปกป้องเมืองนี้เอาไว้เเทนมามิก็คือสาวน้อยเวทย์มนตร์ทั้งสามคน
มาโดกะ โฮมุระ และซายากะ




สุดท้ายแล้วมามิก็ไม่สามารถช่วยเป็นพลังให้โฮมุระได้
เธอได้ทำลายโซลเจมของตัวเองและทิ้งข้อความบางอย่างไว้
ส่วนมาโดกะก็ได้เป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์เพื่อให้เพื่อนรักของเธอกลับคืนมา
ส่วนโฮมุระก็รู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์จากการพยายามทั้งหมด
เธอได้คิดว่าจากนี้เธอไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจเธออีกแล้ว




มาโดกะเห็นโฮมุระท่าทางเป็นกังวล จึงเข้าไปคุยด้วยและบอกว่าเธอจะปกป้องทุกคน
ตามที่สัญญาไว้กับคุณมามิให้ได้ โฮมุระจึงบอกด้วยความเป็นห่วงว่ามาโดกะอาจจะพ่ายเเพ้ให้กับเทศกาลเเม่มดก็ได้




ซายากะจึงว่าโฮมุระว่าพูดอะไรหมดกำลังใจแบบนั้น ถ้าโฮมุระต้องการคนที่จะร่วมมือด้วยเธอก็ยินดีจะเป็นให้เอง
เพราะซายากะเองก็เข้าใจความรู้สึกของโฮมุระและอยากจะปกป้องมาโดกะเหมือนกัน
แล้วเธอเองก็ไม่อยากนึกถึงตอนที่ผิดพลาดไปและไม่อยากให้โฮมุระเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
เธอจึงยินดีให้ความร่วมมือด้วยอย่างเต็มที่ โฮมุระจึงเข้าใจแล้วว่าเธอควรจะสลัดความคิดไม่ดีทิ้งไป
และตอนนี้เธอควรจะทำอะไร




"....เข้าใจแล้ว งั้นก็ไปกันเถอะ
มาโดกะ ฉันจะต้องปกป้องเธอให้ได้"


"คนที่จะปกป้องมาโดกะคือฉันคนนี้ต่างหาก!"

"ไปกันเถอะ ทั้งสองคน!"




สาวน้อยเวทย์มนต์ทั้งสามทะยานเข้าหาความสิ้นหวังโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ทว่าชัยชนะนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดายนัก ทำให้ช่วงเวลานั้นยังคงหวนกลับมาเดินใหม่อีกครั้ง

"ฉันจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะต้องย้อนกลับไปอีกกี่ครั้ง
ฉันก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้สำเร็จอยู่"



.
.
.
.
.



"นี่ มามิ.. จะให้กินหมดนี่เลยเหรอ ถึงจะเป็นชั้นก็คงกินไม่หมดหรอกนะ..."

"พูดอะไรเเปลกๆแบบนั้นล่ะ ไม่ได้กินแค่พวกเราเท่านั้นนี่นา เพราะฉันเรียกทุกคนมาแล้วไงล่ะ!"

"ซายากะก็มาด้วยเรอะ! ฉันไม่ค่อยถูกกับยัยนั่นด้วยสิ"

"ก็ถึงได้บอกตั้งเเต่เมื่อกี๊แล้วไงว่าให้ดีกันไว้น่ะ ฉันเลยเตรียมชาไว้ให้แล้วนี่ไง"




"อ๊ะ ดูเหมือนจะมากันแล้วล่ะ! เข้าใจแล้วนะ? นึกคำพูดไว้คืนดีกันด้วยล่ะ
ถ้านึกอะไรดีๆไม่ออกล่ะก็ อดกินเค้กนะจ๊ะ!"


"หา!? พูดอะไรเป็นไปไม่ได้เเบบนั้นล่ะ... ไม่ฟังกันเลยเเฮะ..."

"...เอ๊ะ? ตายจริง... กลับมาแล้วเหรอ อุตส่าห์เรียกเพื่อนมา เพราะได้ยินว่าจะกลับมาช้าแท้ๆเลยนะ"




"แต่ไว้ซักวัน... มากินด้วยกันพร้อมกับทุกคนนะ! ยินดีต้อนรับกลับจ้ะ!"



" ถึงทุกคน. ก่อนอื่นเลย ถ้าไม่ขอโทษก่อนก็คงไม่ได้สินะ
ขอโทษด้วยที่ฉันเป็นพลังให้
ไม่ได้ ฉันอยากให้ทุกคนยกโทษให้ฉันที่ไม่สามารถทำร้ายเเม่มดได้

แต่ละวันที่ได้เจอกับทุกคนช
่างเป็นเรื่องที่โชคดีจริงๆ
ถึงจะคิดว่าการเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์นั้นเป็นเรื่องทีน่าเจ็บปวด
แต่การช่วยเหลือของพวกเธอก็
ทำให้ฉันไม่รู้สึกโศกเศร้าอีกต่อไป

ถึงจะได้พบกันแค่บางครั้งบา
งโอกาส...แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าแค่นั้นก็ดีมากแล้ว
เพราะมีคนที่พยายามช่วยเหลือฉันถึงขนาดนี้อยู่นี่นา

ถ้าสามารถทำให้ความปราถนาเป็นจริงได้ล่ะก็
ขอให้ทุกคนได้มาเจอกันในโลก
ที่ไม่มีแม่มดก็คงจะดีนะ "


ปลายทางของช่วงเวลาที่แตกต่าง
มามิได้นอนหลับใหลอย่างสงบและเฝ้าฝันถึงวันที่จะได้อยู่ร่วมกันกับทุกคนอย่างมีความสุข


Mahou Shoujo Madoka Magica The Different Story  -End
-




------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



-ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน-

http://i1058.photobucket.com/albums/t409/pgexteen/The%20Different%203/374423_438638329529335_1919213469_n.jpg