[Spoil] THE IDOLM@STER Manga - Ritsuko(2)

- Akitsuki Ritsuko (2)-

ในวันนั้นที่เธอได้ก้าวเข้ามาด้วยความมุ่งหวังว่าจะทำทุกอย่างเพื่อทุกคน
จนถึงตอนนี้ สายสัมพันธ์ของทุกคนได้ร้อยเรียงกันด้วยคำมั่นสัญญานั้นแล้ว



ริทสึโกะลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความกังวลที่ยังอยู่ในใจ
จนถึงตอนนี้ริทสึโกะก็ยังหาทางแก้ไขปัญหาของจิฮายะไม่ได้
และทำไมริเธอถึงไม่สามารถหาถ้อยคำที่ชัดเจนที่จะช่วยเหลือได้นั้น ริทสึโกะเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน


วันนี้ฮารุกะจะไปเยี่ยมจิฮายะที่บ้าน ทุกคนจึงได้ขอฝากของมากมายไปให้จิฮายะด้วยความเป็นห่วง
และได้ฝากให้ฮารุกะบอกกับจิฮายะว่า "ทุกคนรอจิฮายะกลับมาอยู่"



ระหว่างที่ริทสึโกะกำลังพาพวกอิโอริไปทำงานวันนี้
อิโอริก็ได้ถามถึงเรื่องที่ฝากให้ฮารุกะเป็นคนดูแลเรื่องของจิฮายะ
และเรื่องที่จะพักงานของจิฮายะเอาไว้นั้นเป็นเรื่องจริงรึเปล่า


ริทสึโกะบอกว่าเธอได้ปรึกษากับโปรดิวเซอร์แล้ว จึงได้ฝากให้ฮารุกะจัดการในส่วนที่ทำได้
และทุกคนเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า "การร้องเพลง" สำหรับจิฮายะนั้นมันสำคัญแค่ไหน
สำหรับจิฮายะแล้ว "ถ้าร้องเพลงไม่ได้ ก็ไม่สามารถเป็นไอดอลต่อไปได้"
แต่ว่า นั่นก็เป็นเพียงแค่เรื่อง "ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป" เท่านั้น อยู่ที่ว่าหลังจากนี้จะทำยังไง
หรือจะกลับมาร้องเพลงได้อีกรึเปล่า ก็อยู่ที่ตัวของจิฮายะเองด้วยเหมือนกัน



อิโอริบอกกับอามิและคุณอาซึสะว่าให้พยายามตั้งใจทำงานในวันนี้ให้เต็มที่
เพื่อให้จิฮายะที่รักการร้องเพลงได้เห็นพวกเธอแล้วรู้สึกเจ็บใจไปเลย


ริทสึโกะที่ได้เห็นอิโอริทำเพื่อคนอื่นในแบบของตัวเองแล้วก็ได้นึกถึงอิโอริในสมัยก่อน
เมื่อก่อนนั้นอิโอริมีทั้งความหยิ่งทะนงสูง และเกลียดการพ่ายแพ้มากที่สุด
และไม่เคยคิดจะให้ความร่วมมือหรือรับฟังความคิดเห็นจากใครเลยซักนิดเดียว


แต่ในตอนนี้ อิโอริคนนั้นกลับเป็นคนที่พึ่งพาได้และคอยนำพาช่วยเหลือทุกคนไปด้วยกันได้แล้ว


ในเวลาต่อมา พวกริทสึโกะได้ปรึกษาเรื่องมินิคอนเสิร์ตว่าในส่วนของจิฮายะจะทำยังไงกันดี
แต่พวกฮารุกะก็ได้มาขอปรึกษากับโปรดิวเซอร์ว่าพวกเธอนั้นอยากจะช่วยกันแต่งเพลงให้กับจิฮายะ
แต่ริทสึโกะก็เป็นห่วงว่าจะทันถึงวันแสดงคอนเสิร์ตรึเปล่า แต่โปรดิวเซอร์ก็เชื่อมั่นในตัวทุกคน
ทำให้ทุกคนพยายามและเชื่อมั่นเฝ้ารอว่าจิฮายะจะต้องกลับมาแน่นอน


ริทสึโกะได้เฝ้ามองทุกคนที่กำลังตั้งใจช่วยเหลือจิฮายะกันอย่างเต็มที่ ซึ่งแต่ละคนนั้นก็ล้วนแตกต่างกันไป
ฮารุกะเป็นคนที่มักประสบพบเจอปัญหาอยู่เสมอ แต่เธอก็มุ่งมั่นอย่างไม่ยอมแพ้ด้วยความรู้สึกของตัวเอง


มาโคโตะในตอนแรกก็ดูเหมือนเด็กผู้ชายมาก แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคนที่พึ่งพาได้
ยูกิโฮะเองก็เคยเป็นเด็กที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ยาโยยก็มักจะคอยช่วยทำความสะอาดสำนักงานอยู่เสมอ
อามิมามิก็มักจะคอยซุกซนอยู่ข้างๆตลอด แต่รอยยิ้มของทั้งสองคนก็ช่วยให้ทุกคนร่าเริงขึ้นได้
ฮิบิกินั้นตอนที่เข้ามาอยู่ที่นี่ครั้งแรกก็เหมือนจะมองทุกคนในสำนักงานเป็นคู่แข่งไปซะหมด
ทาคาเนะเองก็ดูเป็นคนที่สง่างดงาม แต่ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยเรื่องของตัวเองเหมือนกับปิดบังอะไรไว้


ส่วนมิกิ มิกิมักจะมีปัญหาในเรื่องภาพลักษณ์ของการทำงาน และริทสึโกะต้องคอยช่วยจนถึงที่สุดเสมอ
ไหนจะมีเรื่องที่ชอบให้คอยบ่นคอยว่าอย่างเรื่องที่มิกิชอบไปเกาะติดโปรดิวเซอร์อีก


แต่มิกิก็เป็นคนที่มีความสามารถและมั่นใจในตัวเอง ริทสึโกะก็เชื่อมั่นในตัวของมิกิเหมือนกัน
และมิกิก็เคยบอกว่าเธอจะทำในส่วนที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือจิฮายะด้วย
บางทีคนที่เปลี่ยนไปมากที่สุดอาจจะเป็นมิกิก็ได้


ส่วนคุณอาซึสะนั้นก็คอยอยู่ข้างๆดูแลริทสึโกะตลอดเวลา
ถึงจะดูไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนเเปลงนัก แต่ก็เป็นคนที่ริทสึโกะอยากโปรดิวซ์มากที่สุด


รวมถึงท่านประธานและคุณโคโทริ ในตอนแรกที่ริทสึโกะมาอยู่ที่นี่ก็ต้องคอยช่วยงานหลายๆอย่าง
ไม่ว่าจะต้องช่วยเรื่องต่างๆของสำนักงาน การเป็นไอดอล และการที่ต้องเรียนหนังสือไปด้วย
ถึงทั้งสองคนดูเหมือนจะมีปัญหามาให้ช่วยบ่อยๆ แต่ความจริงแล้วทั้งสองคนเองก็คอยดูแลเธอด้ว
ทำให้ริทสึโกะรู้สึกขอบคุณท่านประธานและคุณโคโทริจากใจจริง




เมื่อหวนนึกถึงเรื่องราวต่างๆมากมายจนถึงตอนนี้
ริทสึโกะก็รู้สึกว่า "โชคดีจริงๆ ที่ได้มาอยู่ที่765โปร"
เพราะมีทุกคนอยู่ จึงทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ได้
และนั่นทำให้ริทสึโกะได้ค้นพบและเข้าใจถึงอะไรบางอย่าง


แต่เมื่อวันแสดงจริงก็ได้มาถึง
สุดท้ายริทสึโกะก็ยังคงสับสนและกังวลในบางสิ่งบางอย่างอยู่


แต่ก่อนที่จะเริ่มการแสดง ในที่สุดจิฮายะก็ได้ตัดสินใจกลับมาหาทุกคนจนได้
ทำให้ทุกคนกลับมามีรอยยิ้มกันอีกครั้ง


ทว่า เมื่อจิฮายะขึ้นแสดง เธอกลับยังไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้
สุดท้ายจิฮายะก็ยังไม่ไหวจริงๆ ความกังวลมากมายที่ิสะสมเอาไว้ได้ถาโถมเข้าใส่ริทสึโกะ
และทำให้ริทสึโกะตัดสินใจที่จะขอยุติการแสดงลงทันที


แต่ฮารุกะกลับวิ่งออกไปหาจิฮายะ และโปรดิวเซอร์เองก็ขอให้การแสดงดำเนินต่อไป
ในตอนนี้มีเพียงแต่ต้องฝากความหวังและเชื่อใจในตัวทุกคนที่พยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้นแล้ว





" นี่ ตอนนี้ "


ฉันก็ยังเฝ้ามองเธออยู่ แม้ว่าเราจะแยกจากกัน 
เช็ดน้ำตาแล้วยิ้มออกมาอย่างที่เคยเป็นเถอะ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ เธอก็ไม่ได้อยู่เพียงลำพังคนเดียว
การมองเห็นความฝัน คือการที่ยังมีชีวิตอยู่
เป็นพลังที่มีไว้ข้ามผ่านความโศกเศร้า "


ก้าวเดินต่อไป บนทางอันไร้ที่สิ้นสุด
ขับขานบทเพลง ให้ข้ามผ่านฟากฟ้า
ขอให้ความคิดคำนึงนี้ส่งไปถึง
ฉันขอสัญญา ว่าจะก้าวเดินต่อไป
 Thank you for Smile "



ก้าวเดินต่อไป "



" บนทางอันไร้ที่สิ้นสุด
ขับขานบทเพลง... "


" ให้ข้ามผ่านฟากฟ้า
ขอให้ความคิดคำนึงนี้ส่งไปถึง
ฉันขอสัญญา ว่าจะก้าวเดินต่อไป "


"Thank you for Smile"



" ความกังวลที่อยู่ในใจนั้น ไม่อาจที่จะลบเลือนหายไปได้
 เพราะว่านั่นเป็น ความรู้สึกที่ทำให้เรา รู้สึกได้ถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ "


" ยินดีต้อนรับกลับนะ  "


แม้จะต้องแบกรับความกังวลมากมายเอาไว้
แต่ในที่สุดทุกคนก็ได้ช่วยเหลือกันจนทำให้จิฮายะกลับมาร้องเพลงได้อีกครั้ง
รอยยิ้มและน้ำตาแห่งความรักนั้นทำให้ริทสึโกะได้ค้นพบสถานที่และสิ่งที่สำคัญที่สุด
ในตอนนี้ 765โปรทุกคนได้เชื่อมโยงสายสัมพันธ์เอาไว้ด้วยคำมั่นสัญญาที่จะก้าวเดินด้วยกันต่อไป


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

[Spoil] Million Live! Comic EP03


- Million Live! Comic Episode 3 -
หนทางในการเป็นไอดอลนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด
ชิซุกะและมิไรจึงได้เริ่มทำการฝึกฝนพัฒนาความสามารถของตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่วันนี้


วันนี้ มิไร ก็ยังคงร่าเริงสดใสเช่นเคย
เมื่อเลิกเรียนแล้วมิไรก็ได้รีบตรงไปหาชิซุกะที่ได้นัดกันไว้


แต่เมื่อมิไรมาถึงก็พบว่าชิซุกะกำลังต่อว่าโปรดิวเซอร์เหมือนเธอกำลังโกรธอยู่
ทั้งนี้เพราะวันนี้โปรดิวเซอร์อยากจะขอตามไปดูแลด้วย แต่ชิซุกะบอกให้ไม่ต้องมาห่วงเหมือนเด็กๆ
และเธอจะเป็นคนดูแลมิไรที่กำลังแอบตกใจกลัวหัวกดอยู่หลังกำแพงเอง


วันนี้มิไรกับชิซุกะจะไปเริ่มการฝึกซ้อมกัน
มิไรเห็นท่าทางชิซุกะโกรธเรื่องที่โปรดิวเซอร์ จะขอตามมาด้วย
ก็เลยเอาอันดับผลการร้องเพลงคาราโอเกะของเธอมาให้ชิซุกะดู
แต่ดูเหมือนมิไรจะเข้าใจเรื่องคาราโอเกะกับการฝึกซ้อมในวันนี้ผิดไปมากทีเดียว


มิไรถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อเจอการฝึกฝนตั้งแต่การยืดหยุ่นร่างกาย
เจอการฝึกของจริงเข้าไป แค่เริ่มก็ดูท่าจะไปไม่รอดซะแล้ว...


ครูฝึกสอนได้ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ จึงได้ให้พวกชิซุกะฝึกกันเอง
แต่มิไรก็เริ่มซิทอัพจนหมดแรงและเริ่มออกอาการทำหน้ากวนๆ จนชิซุกะต้องหลุดขำออกมา
แต่มิไรก็ก็บอกว่านี่เธอจริงจังแล้ว ชิซุกะนั่นเเหละที่หัวเราะเธอเอง
แถมมิไรยังไม่เข้าใจด้วยว่าร้องเพลงแล้วจะฝึกแบบนี้ไปทำไม


พอเปลี่ยนกัน ชิซุกะก็ซิทอัพได้แค่3-4ครั้งก็ขยับตัวไม่ขึ้นแล้ว
มิไรก็พยายามช่วยกระตุ้นให้ขึ้น แต่ชิซุกะก็ยังฝืนตัวเองไม่ขึ้น ทำให้ทั้งคู่หัวเราะออกมา


ต่อมาเป็นการฝึกควบคุมเสียง ซึ่งมิไรเป็นมือใหม่จึงยังทำได้ไม่ดีนัก
ครูฝึกสอนจึงบอกว่าถ้าไม่ตั้งใจฝึกให้ดีก็จะไม่ได้ฝึกร้องเพลง
ทำให้ตอนนี้มิไรต้องไปนั่งหลบมุมห้องได้แต่ดูชิซุกะฝึกร้องเพลงไปก่อน


แต่เมื่อได้เห็นการร้องเพลงของชิซุกะ มิไรเองก็รู้สึกประทับใจมากเหมือนกัน


เมื่อการฝึกเสร็จสิ้น มิไรก็ได้ชมชิซุกะว่าตอนร้องเพลงดูดีมาก
ชิซุกะจึงแก้เขินว่าอย่าพูดแบบนั้นเลย เพราะเธอก็ยังฝึกมาไม่มากพอเหมือนกัน


ระหว่างที่ชิซุกะกำลังคุยกับมิไร
โยโกยาม่า นาโอะ ก็ได้เข้ามาทักทายชิซุกะ
เพราะวันนี้นาโอะก็ได้มาฝึกเหมือนกัน เธอจึงได้มาขอร่วมวงในระหว่างพักด้วย


นาโอะ ได้ป้อนทาโกะยากิให้มิไรกิน แต่มิไรร้อนจนต้องรีบหาน้ำมากิน
ซึ่งเมื่อเห็นปฎิกริยาของมิไรเหมือนกับสุนัขเวลากินของร้อนๆแล้ว นาโอะก็รู้สึกว่ามิไรดูตลกดี


นาโอะได้ร่วมวงสนทนาและเริ่มนินทาเวลาที่ครูฝึกสอนโกรธกับมิไรอย่างสนุกสนาน
ซึ่งชิซุกะก็เห็นว่านั่นเป็นเพราะพวกเธอทำได้ไม่ดีเอง เพราะถ้าอยู่บนเวทีจริงแล้วใครก็ช่วยไมไ่ด้หรอก
เมื่อพักกันพอสมควรแล้ว ชิซุกะก็เตรียมตัวไปฝึกเต้นกับนาโอะกันต่อ
ซึ่งนาโอะก็ได้ชวนมิไรไปดูเพื่อเพิ่มความกดดันให้ชิซุกะด้วย


มิไรได้มาดูการฝึกเต้นของ ชิซุกะ นาโอะ และ ชิมาบาระ เอเลน่า
ซึ่งการฝึกนั้นเข้มงวดมากจนเหมือนชิซุกะจะโดนติติงอยู่คนเดียว


เอเลน่าได้มาคุยกับชิซุกะว่าน่าจะพักซักหน่อย เพราะชิซุกะดูเหนื่อยมากทีเดียว
แต่ชิซุกะก็ไม่ยอมแพ้ จนครูฝึกเต้นต้องมาเสริมว่าชิซุกะควรจะพักดูการเต้นของเอเลน่าซักหน่อย
แถมเอเลน่ากับนาโอะนั้นอยู่ม.ปลาย ทำให้ยังมีแรงเหลือต่างกับชิซุกะ


แต่มิไรก็ได้อาสาขอเป็นคนเต้นเอง
ทำให้ชิซุกะตกตะลึงว่าแค่มิไรมาดูวันแรก ก็จดจำท่าเต้นได้หมดแล้วงั้นหรือ!?


แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่ชิซุกะคิด เพราะเมื่อฝึกเสร็จแล้ว พวกนาโอะก็ได้หัวเราะไม่หยุด
เพราะมิไรนั้นเต้นได้ดูไม่จืดสุดๆเลย แต่อาจารย์ก็ชมมิไรที่เต้นเหมือนรำวงบงโอโดริว่าน่าสนใจดี
ส่วนชิซุกะก็รู้สึกว่าเธอต้องฝึกหนักให้มากกว่านี้ และมิไรกับชิซุกะก็ได้ขอตัวกลับกันก่อน


เมื่อพวกมิไรกลับไปแล้ว นาโอะและเอเลน่าก็ได้เห็นว่าทั้งสองคนนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แต่บางทีก็อาจจะเข้ากันได้ดีก็ได้


"ชิซุกะที่พยายามมุ่งมั่น กับ มิไรที่ไร้ความกังวล
ทั้งสองคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่อาจจะเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อก็ได้"


แต่ในระหว่างที่กำลังจะกลับกัน ชิซุกะก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
พวกเธอจึงได้ไปดูกัน



เสียงนั้นคือเสียงของ จิฮายะ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงของ765โปร
ซึ่งจิฮายะกำลังฝึกซ้อมร้องเพลงที่อีกห้องนึงอยู่


ชิซุกะที่แอบดูอยู่ก็ตกตะลึงว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของจิฮายะจริงๆ
แต่มิไรที่อยากเห็นบ้างก็ได้เบียดชิซุกะจนทำให้ทั้งคู่ล้มลงเข้าในห้อง


จิฮายะได้เข้ามาทักทายและแนะนำตัวกับมิไร
มิไรก็ได้แนะนำตัวแบบสบายๆและบอกว่าจิฮายะร้องเพลงเก่งจริงๆ
ชิซุกะจึงได้ต่อว่ามิไรที่เหมือนจะไม่รู้จักจิฮายะและเพลง"Aoi Tori"
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและไพเราะเลยซักนิดเดียว



ส่วนเพลงที่จิฮายะฝึกอยู่เมื่อกี๊นั้นเป็น เพลงใหม่
ชิซุกะจึงได้ชมว่าเป็นเพลงที่วิเศษเข้ากับรุ่นพี่อย่างจิฮายะมาก
จิฮายะจึงได้บอกว่าเธอเองก็ได้ยินเรื่องการตั้งใจแสดงบนเวทีอย่างยอดเยี่ยม
ของชิซุกะมาจากฮารุกะเหมือนกัน


ชิซุกะนึกถึงเรื่องที่เธอเคยเป็นปัญหาบนเวที
เธอจึงได้บอกว่าเธออยากจะยืนหยัดบนเวทีได้เหมือนอย่างจิฮายะ
จึงขอให้จิฮายะช่วยแนะนำว่าเธอควรจะทำยังไงดี


จิฮายะได้หยุดคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบมาอย่างเรียบง่ายว่า "คงต้องฝึกซ้อมและเชื่อฟังครูล่ะมั้ง.."
ซึ่งสำหรับจิฮายะแล้ว เธอก็พยายามทำอยู่แค่นั้นมาตลอดจริงๆ และชิซุกะก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
แต่มิไรก็ได้ถามว่าไม่มีวิธีอื่นนอกจากนี้เลยเหรอ จิฮายะจึงบอกว่าในกรณีของเธอนั้น
คือการที่เธอต้องรู้สึกผูกพันกับบทเพลงให้ได้


ชิซุกะได้ขอแยกตัวกลับกับมิไร เพราะเธอได้แอบมาหาที่ทบทวนบทเรียนที่โรงเรียนต่อ
มิไรได้ส่งข้อความมาบอกชิซุกะว่าวันนี้เธอสนุกมาก แต่ชิซุกะก็ได้นึกถึงสิ่งที่จิฮายะพูด
ซึ่งชิซุกะไม่เข้าใจว่าการผูกพันที่ว่านั้นคืออะไร และเวลาของเธอนั้นจะเหลือพอที่จะเข้าใจมันรึเปล่า..

" ความผูกพัน... จนกว่าเวลาของเราจะหมด เราจะเข้าใจมันได้รึเปล่านะ... "

------------------------------------------------------------------------------------------------