

โอคาเบะได้ไปสอดส่องดูลาดเลาล็อกเกอร์หยอด
เงินที่เอาไว้ฝากของตามที่โมเอกะบอก
ถึงมันจะตั้งตระหง่านอยู่ริมถนนเพราะให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ใช้กัน
เเต่โอคาเบะก็ไม่กลัวที่จะเเงะตู้ออกมาเพื่อให้ได้ซึ่งIBN
ในวันที่12เขาจึงได้คุ้ยหาชะแลงที่ห้องเเล็ปเเละมุ่งมั่นไปทันที
เเต่มากิเสะก็ได้ห้ามเอาเขาไว้ก่อน


มากิเสะพยายามบอกให้โอคาเบะใจเย็นๆเเละคิด
ดูดีๆว่าทำไมพวกเขาที่พยายามเเก้ไข Dเมล์ถึงขนาดนี้เเล้ว IBN
ก็ยังไม่กลับมา
ทั้งนี้มากิเสะคิดว่าอาจจะเป็นเพราะมันไม่มีทางที่ทำให้กลับไปโลกเดิมได้อีก
ก็เป็นได้ เเต่โอกาสก็ใช่ว่าจะไม่มี
มากิเสะจึงให้โอคาเบะใจเย็นๆคอยดูสถานการณ์ต่อไปโดยเดิมพันว่าจะมีIBNอยู่ใน
นั้นจริงๆรึเปล่า


โมเอกะได้ซื้อขนมปังมาให้โอคาเบะที่นั่งดู
ลาดเลาของล็อคเกอร์ดังกล่าวอยู่
เธอขอร่วมมือกับโอคาเบะเพราะว่าเธออยากจะเจอFBตัวจริงเหมือนกัน
โอคาเบะไม่อยากถือสาโมเอกะมากนัก เขาจึงรับขนมปังจากเธอมา


ตกเย็น
ระหว่างที่มากิเสะกำลังกลับจากซื้อของกับมายูริ
มากิเสะได้คุยโทรศัพท์กับโอคาเบะเเละรู้ว่าเขากำลังอยู่กับโมเอกะ
หลังโอคาเบะวางสายไป
มายูริจึงบอกว่าช่วงนี้เธอรู้สึกไม่ค่อยได้คุยกับโอคาเบะเลย
เเต่ก่อนที่ทั้งคู่จะกลับขึ้นไปที่เเล็ป
มิสเตอร์เบราน์เเละนาเอะก็ได้มาทักทายพวกเธอก่อนที่กำลังจะกลับบ้านกัน
ถึงมิสเตอร์เบราน์จะฝากเรียกเก็บค่าเช้าห้องจากโอคาเบะ
เเต่เขาก็ยังเป็นห่วงที่ช่วงนี้เห็นโอคาเบะดูท่าทางเหมือนคนไม่ค่อยสบาย
เเต่เมื่อรู้ว่าโอคาเบะกำลังง่วนกับการทดลองอะไรบางอย่างอยู่
มิสเตอร์เบราน์ก็รู้สึกว่าโอคาเบะเป็นผู้ชายที่โชคดีจริงๆ
เพราะเขามีเพื่อนรอบกายเเละได้ทำในสิ่งที่ต้องการด้วย

ตกดึก
โอคาเบะได้ขอดูเมล์ที่FBส่งมาให้โมเอกะ ในเมล์FBได้กล่าวชื่นชม "M4"
ว่าเป็นคนที่ซื่อสัตย์เเละขยันทำงานได้ดีมาก โมเอกะก็ได้บอกว่า M4
คือโค้ดเนมของเธอที่มีเพียงเธอกับFBเท่านั้นที่รู้ชื่อโค้ดเนมนี้


เช้าวันที่13
โอคาเบะได้พบใครบางคนเอากล่องออกมาจากล็อคเกอร์
โมเอกะบอกว่านั่นคือIBNเเต่เขาคนนั้นไม่ใช่FBเเน่นอน
พวกโอคาเบะได้ตามไปที่สถานีรถไฟเเละสังเกตุเห็นรอยสักที่คอของชายคนดังกล่าว
ซึ่งเหมือนกับรอยสักของคนที่ไปบุกฆ่ามายูริ
เเต่ในระหว่างที่ตามรอยอยู่ในสถานีนั้น
เขาก็พบว่ากล่องถูกเปลี่ยนไปให้มือคนอื่นที่อยู่บนรถไฟซะเเล้ว
โอคาเบะจึงต้องใช้Dเมล์ย้อนไปมาเพื่อให้ตัวเองสามารถตามกล่องเจ้ากรรมที่
ผลัดเปลี่ยนมือจากคนนึงสู่อีกคนนึงได้ จนกกล่องใบนั้นได้มาหยุดที่ริมถนน
รถบรรทุกโทรมๆคันนึงได้วิ่งมาจอดตรงนั้น
เเละได้มีชายคนนึงลงจากรถมาคุยกับชายที่ลากกล่องเจ้าปัญหามาจนถึงที่นี่
ซึ่งรูปร่างอันใหญ่โตเเละหัวล้านจนสะดุดตานั้นคือคนที่โอคาเบะคุ้นเคยดี..

"มิสเตอร์เบราน์.."


โอคาเบะกับโมเอกะได้สะกดรอยตามมิสเตอร์
เบราน์ที่เอากล่องดังกล่าวมาไปจนถึงบ้านของเขา ในเช้ามืดของวันที่14
มีคนนำรับตุ้มารับกล่องต่อจากมิสเตอร์เบราน์ที่บ้าน
เเละได้ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินไป
ซึ่งจุดหมายคือฝรั่งเศสที่มีองค์กรณ์SERNอยู่
เท่ากับว่าองค์กรณ์Rouderของพวกโมเอกะได้ตามหาIBNไปให้SERNนั่นเอง

มากิเสะได้ติดต่อมาเเละเรียกพวกโอคาเบะไป
คุยเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมติดต่อมาเลย
ตัวมากิเสะเองก็รู้ว่าพวกโอคาเบะทำอะไรอยู่จึงไม่เป็นไร
เเต่เธออดห่วงมายูริที่ดูซึมๆไปไม่ได้
โอคาเบะจึงตัดสินใจชวนพวกมากิเสะไปคุยกับคนที่พวกเขารู้จักดีเพื่อให้รู้
เรื่องกันไปเลย


ถึงเเดดยามเช้าจะส่องสว่าง
เเต่นาเอะก็ยังหลับสบาย
มิสเตอร์เบราน์ได้เปิดประตูรับเเขกที่มากดกริ่งอยู่หน้าบ้านเข้ามา
มิสเตอร์เบราน์เเปลกใจเล็กน้อยที่พวกโอคาเบะมีทีท่าจริงจังผิดคาดเเม้ว่าเขา
จะพูดหยอกล้อเหมือนปกติก็ตาม
โอคาเบะได้ขอเข้าเรื่องตรงๆว่าพวกเขารู้เรื่องทุกอย่างหมดเเล้ว
เขาคิดว่ามิสเตอร์เบรน์น่าจะเป็นคนที่รู้จักกับFB
เลยมาขอถามตรงๆเพื่อจะได้เจอตัว
"หักหลังกันจนได้นะ M4"


มิสเตอร์เบราน์ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง
เฉย โมเอกะตกใจมากที่ผู้ชายตรงหน้าเธอรู้โค้ดเนมลับของเธอกับFB
ที่มิสเตอร์เบราน์รู้ก็เพราะไม่ใช่อะไร เพราะเขาเป็นคนนำชื่อของ เฟอร์ดินานด์ บราวน์ นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันที่ได้รับรางวัลมาเป็นชื่อย่อ FB ซึ่งเป็นชื่อย่อเเทนตัวของมิสเตอร์เบราน์เอง


มิสเตอร์เบราน์ไม่อยากให้ลูกสาวที่กำลัง
หลับสบายอยู่ต้องตื่นเพราะพวกเขา
เขาจึงชวนพวกโอคาเบะไปคุยเเถวที่กำลังก่อสร้างกันอยู่
ถึงโมเอกะจะไม่อยากเชื่อว่ามิสเตอร์เบราน์คือFBที่เธอใฝ่หามาโดยตลอด
เเต่มิสเตอร์เบราน์ก็ยอมรับว่าคำสั่งทั้งหมดนั้นเขาเป็นคนออกคำสั่งด้วยตัว
เอง รวมถึงที่เขาหลอกสมาชิกคนอื่นๆให้เชื่อใจเขาในยามคับขันด้วย
โอคาเบะบอกว่าเขาไม่อยากเชื่อว่ามิสเตอร์เบราน์จะยอมเป็นสุนัขรับใช้ของSERN
ยิ่งสุซุฮะเป็นคนยอมสละชีพไปด้วยเเล้วเขายิ่งไม่ยอมรับใหญ่


มิสเตอร์เบราน์บอกว่าตอนเด็กๆเขาเคยผจญกับ
ชีวิตที่ต้องอยู่ในท่อระบายน้ำกลางฤดูหนาว
เเม้เเต่พวกหนูก็ยังทำท่าทางจะมากินเขาที่เหมือนเด็กใกล้ายเพราะไม่ได้กิน
อะไรมา3-4วัน
ในตอนนั้นเขามีทางเดียวคือต้องปีนหนีขึ้นมาเเม้ว่ามือของเขาจะเปรอะเปรื้อ
นมากเเค่ไหน เเละเมื่อรู้สึกตัวอีกที
เขาก็กลายเป็นหุ่นเชิดของใครบางคนซะเเล้ว
เเละผู้ที่เป็นหุ่นเชิดก็ไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไป
ว่าเเล้วมิสเตอร์เบราน์ก็หยิบปืนพกมาเล็งใส่โมเอกะที่ยืนอยู่ข้างๆ


โมเอกะได้นึกถึงสิ่งที่เธอเคยทำกับมายูริ
ออก ก่อนที่มิสเตอร์เบราน์จะลั่นไกปืนออกไป
เสียงเครื่องมือก่อสร้างเเละเสียงออดได้กลับเสียงปืนไปจนหมด
มิสเตอร์เบราน์คิดว่าคำว่า สุนัขรับใช้ อาจจะเป็นคำที่ดีเกินไป
เขาเป็นได้เเค่วัวควายที่ถูกใช้งานเท่านั้น
บางครั้งที่คิดอยากจะวิ่งหนีไปก็ไม่สามารถทำได้
เพราะเขามีสิ่งสำคัญที่ต้องปกป้องอยู่
"ถ้าพวกเธอหนีไปได้ ก็กลับไปหาครอบครัวซะล่ะ
ชั้นเองก็ผิดพลาดเหมือนกัน เเต่นาเอะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย"


ชั้นเองก็ผิดพลาดเหมือนกัน เเต่นาเอะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย"


มิสเตอร์เบราน์ได้เอาปืนจ่อหัวตัวเองเพื่อ
ที่จะบอกลาเรื่องทุกอย่างซะที ในขณะเดียวกัน นาเอะตื่นขึ้นมาไม่พบใคร
เธอพบเเก้วน้ำของพ่อเเละของใครบางคนที่มาหา

นาเอะจึงไปล้างหน้าเเปรงฟันเเละทำไข่ดาว ไส้กรอกเเละขนมปังปิ้งเตรียมเอาไว้
เพื่อที่พ่อของเธอจะได้กลับมากินมื้อเช้าอันเเสนอบอุ่นด้วยกัน




โอคาเบะถึงกับอาเจียนออกมาเมื่อเจอสถานการณ์ที่รับไม่ไหว เขาปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าตาต่อสองคน
โมเอกะพยายามเรียกเขาให้ไปหาเพื่อบอกขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
"โอคาเบะคุง.. ขอโทษนะ.. ขอโทษ.."


มากิเสะพยายามตะโกนเรียกโอคาเบะที่นิ่ง
เงียบให้ได้สติ หน้าที่ของเขายังไม่จบ
โอคาเบะได้ค้นหาโทรศัพท์มือถือของมิสเตอร์เบราน์เเละส่งDเมล์ไปบอกโมเอกะให้
เลิกตามหาIBNเเละไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น


ภายในช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป
โอคาเบะได้รู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ที่หน้าห้องของโมเอกะ ภายในห้อง
โมเอกะกลับมาเป็นคนเดิมที่ต้องพูดคุยกับคนอื่นผ่านทางเมล์
เธอได้บอกว่าเธอไม่อยากได้IBNเเล้ว
เพราะหัวหน้าของเธอสั่งให้เลิกตามหาเรียบร้อย


ระหว่างกลับ ก่อนที่จะขึ้นไปที่เเล็ป
โอคาเบะได้เห็นมิสเตอร์เบราน์กับนาเอะกำลังกินมื้อเย็นกันอย่างอบอุ่น
เขาได้โทรไปหาลูกะต่อเพื่อที่จะถามเรื่องIBN เเต่เมื่อขกลับไปที่เเล็ป IBN
ที่ตามหามานานก็ได้กลับมาหาเขาเเล้ว


โอคาเบะได้ขอให้ดาลุใช้IBNเชื่อมต่อกับระบบ
ของSERNเพื่อลบข้อมูลเรื่องไทม์เเมชชีนทั้งหมด
โอคาเบะได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกมากิเสะฟังอีกครั้ง
เขารู้สึกขอบคุณมากิเสะมากๆที่คอยช่วยเหลือเขามาตลอด
เเต่เขาก็เก็บเงียบเอาไว้โดยไม่ได้พูดออกไป
เขาเลือกที่จะยิ้มออกมาอย่างสบายใจ เพราะเขาไม่ต้องรีบร้อนอะไรอีกเเล้ว
เพราะหลังจากนี้ฝันร้ายก็จะได้จบลงซะที


เเต่มากิเสะก็ได้พูดถึง
Dเมล์อันเเรกที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ ใช่เเล้ว
ในตอนนั้นโอคาเบะได้เห็นมากิเสะถูกใครบางคนเเทงจนนอนจมกองเลือด
ทำให้เขาส่งเมล์ไปหาดาลุเเละเกิดเป็นDเมล์ขึ้นมาจนถึงตอนนี้
"ลบDเมล์ทั้งหมดได้เเล้ว เส้นทางโลกก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
เเละนั่น ไม่ใช่เส้นทางของโลกที่มีSERNปกครองความชั่วร้าย"

"เป็นเส้นทางที่มายูริไม่ตาย"

"เเละเป็นเส้นทางที่ มากิเสะ คุริสุ ตาย"
สิ่งที่เผชิญมาโดยตลอดไม่ใช่ฝันร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น เเต่ฝันร้ายนั้นได้เริ่มมาตั้งเเต่เเรกเเล้ว
เเละมันก็กำลังจะกลับมาหาอีกครั้ง โอคาเบะจะหลีกหนีเส้นทางของโลกเเห่งความตายนี้ได้อย่างไร
โปรดติดตามชมตอนต่อไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เเละนั่น ไม่ใช่เส้นทางของโลกที่มีSERNปกครองความชั่วร้าย"

"เป็นเส้นทางที่มายูริไม่ตาย"

"เเละเป็นเส้นทางที่ มากิเสะ คุริสุ ตาย"
สิ่งที่เผชิญมาโดยตลอดไม่ใช่ฝันร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้น เเต่ฝันร้ายนั้นได้เริ่มมาตั้งเเต่เเรกเเล้ว
เเละมันก็กำลังจะกลับมาหาอีกครั้ง โอคาเบะจะหลีกหนีเส้นทางของโลกเเห่งความตายนี้ได้อย่างไร
โปรดติดตามชมตอนต่อไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น