[Spoil] THE IDOLM@STER - Iori (1)


- Minase Iori (1) -
เรื่องราวของ อิโอริ
กับการมุ่งสู่หนทางของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ไม่ยอมแพ้ใคร


< ครี่งแรก >

มาโคโตะได้มาที่สำนักงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับการฝึกซ้อมในวันนี้
แต่มาโคโตะก็ได้พบกับรถสุดหรูมาจอดที่หน้าสำนักงาน
ทำให้มาโคโตะอดคิดไม่ได้ว่าใครกันที่ได้นั่งรถหรูๆแบบนี้



แต่คนที่มาโคโตะสงสัยก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล
หากแต่เป็นคุณหนู อิโอริ แห่งตระกูลมินาเสะที่มีพ่อบ้านขับรถหรูมาส่งนั่นเอง



เมื่อเห็นบล๊ะลานุภาพความร่ำรวยของอิโอริ มาโคโตะก็ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างไป
และเมื่ออิโอริหันมาทักทายมาโคโตะ มาโคโตะก็พูดตะกุกตะกัก
พร้อมกับกล่าวคำทักทายเจ้าแม่อิโอริแบบสุภาพสุดๆด้วย



หลังจากจบเรื่องตกใจของมาโคโตะ และพักดื่มชาของยูกิโฮะแล้ว
ริทสึโกะก็ได้เข้ามาที่สำนักงานพอดี อิโอริจึงได้ขอเวลาคุยด้วย
เรื่องที่อิโอริคุยกับริทสึโกะคือเรื่องงานครั้งต่อไปที่เตรียมไว้
เมื่อได้อ่านกำหนดการที่มีแต่งานที่เธอต้องการจะทำแล้ว
อิโอริก็ได้เอ่ยปากชมว่าสมแล้วที่ริทสึโกะเป็นโปรดิวเซอร์ของเธอ 
แต่ริทสึโกะก็บอกว่าเธอรู้ดีว่ายังมีงานอื่นที่อิโอริอยากทำมากกว่านี้อีก
ทำให้อิโอริได้แอบยิ้มออกมาเล็กน้อย


แม้จะดีใจที่ริทสึโกะเข้าใจความต้องการของเธอได้เป็นอย่างดี
แต่อิโอริก็อดที่จะแซวไม่ได้ว่าริทสึโกะอ่านความคิดของเธอได้ทะลุปลุโปล่งมากเกินไปจริงๆ
ริทสึโกะจึงบอกว่าทำงานมาด้วยกันถึงขนาดนี้แล้วก็ต้องรู้กันดีเป็นธรรมดา
และริทสึโกะก็ได้กลับเข้าเรื่องเพื่อจบหัวข้อนี้
โดยการถามอิโอริเป็นครั้งสุดท้าย ว่าอิโอริทำงานนี้ได้รึเปล่า
ซึ่งอิโอริก็ตอบรับด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม


" แน่นอนอยู่แล้ว "


ในระหว่างที่เตรียมตัวสำหรับการฝึกซ้อมวันนี้
มาโคโตะได้ถามว่าเมื่อกี๊อิโอริคุยอะไรกับริทสึโกะ
แต่อิโอริก็บอกแค่ว่าคุยเรื่องงานในครั้งนี้กัน
มาโคโตะจึงได้แอบแซวว่าอิโอริทำเป็นมีความลับไม่ยอมบอกว่างานอะไร
อิโอริจึงบอกว่าไว้ตกลงเรียบร้อยแล้วเธอจะบอกเองอยู่แล้ว
เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเป็นคนเดียวที่หยุดอยู่กับที่แค่นี้เหมือนกัน



ตกดึก ริทสึโกะได้เล่าให้พวกโปรดิวเซอร์ฟังว่าเธอจะให้อิโอริ
เป็นตัวหลักในการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตใหญ่คนเดียวในฐานะริวกูโคมาจิ
ซึ่งดูจากผลงานของอิโอริแล้วก็ไม่มีใครคัดค้านอะไร
แถมนี่ยังเป็นความต้องการของอิโอริเองด้วย


และริทสึโกะก็ได้เล่าถึงแผนการของเธอในขั้นต่อไป
ซึ่งตอนนี้คุณอาซึสะก็ได้เริ่มเป็นแขกรับเชิญในรายการต่างๆ
และยังได้เป็นตัวแสดงหลักในภาพยนตร์ดราม่าด้วย
ส่วนอามิก็เริ่มกลับมามีงานกับมามิมากขึ้น และได้ออกแสดงในรายการวาไรตี้
เหลือแต่เพียงอิโอริ ที่ริทสึโกะอยากจะชี้นำหนทางของไอดอลให้มากที่สุด
และเมื่อเธอทำตามเเผนการที่วางไว้ของทั้งสามคนได้สำเร็จเมื่อไหร่
เมื่อนั้นก็จะเกิดสิ่งที่เหมือนกับปฎิกริยาเคมีครั้งใหญ่ขึ้น



" การพัฒนาไอดอลทั้งสามคนที่มีลักษณะเส้นทางแตกต่างกัน
นี่แหละคือ ริวกูโคมาจิ ของฉันค่ะ "



เมื่อได้ยินถึงแผนการและได้เห็นความตั้งใจแน่วแน่ของริทสึโกะ
โปรดิวเซอร์ก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยและบอกว่าเขาพลาดซะแล้ว
เพราะคอนเสิร์ตใหญ่ที่ว่านั่นเขาเองก็มีคิดวางแผนเอาไว้เหมือนกัน
แต่กลายเป็นว่าเขาโดนริทสึโกะนำหน้าไปก่อนหนึ่งก้าวอีกแล้ว
ดูเหมือนงานนี้คนที่เข้าใจความต้องการ
และอยากทำความฝันของเหล่าไอดอลให้เป็นจริง
จะไม่ได้มีเพียงแค่ริทสึโกะคนเดียวซะแล้ว



< ครึ่งหลัง >


อิโอริในตอนนี้กำลังแสดงเพลง "DIAMOND" อยู่บนเวทีคนเดียว
ซึ่งการแสดงของอิโอรินั้นก็เปล่งประกายงดงามราวกับเพชรเม็ดงามมาก


เมื่อกลับมาที่หลังเวที อิโอริก็ได้หยอกโปรดิวเซอร์เล็กน้อย
เพราะวันนี้โปรดิวเซอร์มาเป็นตัวแทนดูแลงานให้ริทสึโกะ
จากที่ริทสึโกะต้องไปดูแลงานถ่ายหนังช่วงสำคัญของคุณอาซึสะ
ส่วนยาโยยนั้นก็ยังคอยดูแลอิโอริ รวมถึงมิกิที่ยังคงชอบพุ่งเข้าใส่อิโอริด้วย
ซึ่งก่อนขึ้นเวที มิกิก็บอกว่าเธอจะพยายามเต็มที่ไม่ให้แพ้อิโอริเหมือนกัน


อิโอริได้ยืนมองมิกิขึ้นไปแสดงบนเวทีและรู้สึกว่ามิกิทำได้ดีมากพอแล้ว
ทำให้ในใจอิโอริตอนนี้มีทั้งความรู้สึกตื่นเต้นและความรู้สึกไม่อยากยอมแพ้
จากการที่ได้เห็นผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งเฉิดฉายบนเวทียิ่งกว่าตัวเอง



หลังจากจบงานและได้ส่งยาโยยกับมิกิที่บ้านแล้ว
ตอนนี้ก็เหลือเพียงอิโอริ ที่นานๆจะได้เห็นเธอกลับบ้านกับโปรดิวเซอร์
โปรดิวเซอร์จึงได้ชวนคุยเรื่องคอนเสิร์ตใหญ่ที่อิโอริจะขึ้นแสดงคนเดียว
และบอกว่าเขาโดนริทสึโกะนำหน้าไปก่อนหนึ่งก้าวแล้ว
อิโอริจึงได้ขอให้โปรดิวเซอร์ตอบมาตามจริงว่าคิดยังไง
โปรดิวเซอร์ก็บอกว่าเขาคิดว่าดีแล้ว และอิโอริจะต้องทำสำเร็จได้ดีแน่นอน
แต่กลายเป็นว่าอิโอริกลับงอนเล็กน้อย และบอกว่าเธอไม่ได้ถามเรื่องนั้นซะหน่อย


โปรดิวเซอร์จึงได้ถามว่างั้นอิโอริอยากถามเรื่องอะไร
อิโอริจึงได้บอกว่า แม้เธอจะได้เดบิวต์ก่อนคนอื่น
แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าทุกคนกำลังค่อยๆนำหน้าเธอไปแล้ว
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ มิกิ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่งหน้าใหม่แห่งปี
ซึ่งอิโอริยอมรับว่าเธอได้มองเห็นถึงความเปล่งประกายงดงามมาก


และไม่ใช่แค่มิกิเท่านั้น แต่ยังมี 765โปรคนอื่นๆ อย่าง
จิฮายะผู้ร้องเพลงอย่างมีความสุข คุณอาซึสะผู้โอนอ่อน
อามิมามิผู้มีความร่าเริงอยู่เสมอ ยาโยยผู้มีความสดใส
ยูกิโฮะผู้แฝงความเข้มแข็งไว้ภายในความอ่อนโยน
มาโคโตะผู้พุ่งไปด้วยความกล้า ฮิบิกิผู้สะกดทุกสายตา
ทาคาเนะผู้เปี่ยมล้นด้วยความสามารถอย่างแท้จริง 
และฮารุกะ ผู้มุ่งมั่นพยายามในโอกาสที่เป็นไปได้ใหม่ๆอยู่เสมอ



เมื่อได้อยู่ท่ามกลางวงล้อมของคนที่มีความสามารถเหนือตนเอง
ทำให้อิโอริไม่มั่นใจว่าการมุ่งหน้าไปในเส้นทางของเธอเองแบบนี้จะดีแล้วรึเปล่า
และอิโอริก็ขอให้โปรดิวเซอร์ตอบออกมาตามตรงอีกครั้ง
ว่าในฐานะไอดอลแล้ว โปรดิวเซอร์คิดว่าเธอเป้นยังไงกันแน่



"ผมคิดว่าริทสึโกะกับอิโอริมีส่วนที่เหมือนกันเยอะเลยนะ"


โปรดิวเซอร์ได้ตอบตามความคิดของเขา
ซึ่งเขาเห็นว่ายังไงผู้ที่เป็นโปรดิวเซอร์ดูแลอิโอริในตอนนี้ก็คือริทสึโกะ
ริทสึโกะเองก็มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะไปสู่จุดสูงสุดเหมือนกัน
และในจุดนั้นเองที่ช่วยผลักดันให้อิโอริขึ้นบันไดไปได้สูงมากขึ้น
ซึ่งอิโอริเองก็เป็นไอดอลคนหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจของ 765โปร
และด้วยความที่อิโอริมุ่งไปข้างหน้าเสมอ นานๆครั้งจะมีเรื่องให้ทุกข์ใจบ้างก็เป็นธรรมดา
แต่ไม่ว่าจะเจอกำแพงที่สูงใหญ่แค่ไหนก็จะก้าวข้ามผ่านพ้นไปให้ได้
นั่นเเหละ คือ มินาเสะ อิโอริ ในความคิดของโปรดิวเซอร์


เมื่อได้รู้ถึงความคิดของโปรดิวเซอร์ อิโอริก็อดที่จะรู้สึกเหนื่อยใจ
กับการที่เธอแสดงทีท่าเอะอะโวยวายเหมือนคนบ้าเมื่อกี๊ไม่ได้
ซึ่งอิโอริในตอนนี้ได้เข้าใจแล้วว่ายังไงเธอก็มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไป
โปรดิวเซอร์จึงบอกว่าแบบนั้นเเหละ ถึงจะสมกับเป็นอิโอริ
ทำให้อิโอริกลับมาตอบรับด้วยรอยยิ้มที่ไร้ซึ่งความกังวลได้แล้ว


แม้จะมีความสับสนในหนทางของตัวเอง
แต่ก็ยังมีพวกพ้องเคียงข้างให้คอยก้าวข้ามและช่วยเหลือในยามที่หลงทาง
ตอนนี้ไอดอล มินาเสะ อิโอริ ได้เดินหน้าขึ้นสู่เวทีอันยิ่งใหญ่
ตามหนทางที่ตัวเองเชื่อมั่นแล้ว


=====================================

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น