
~The different story~
อีกเรื่องราวของพวกมาโดกะที่แตกต่างไปจากเดิม
โดยเล่มที่สองนี้เรื่องราวจะเริ่มแตกต่างจากเนื้อหาหลัก การพบกันอีกครั้งของมามิกับเคียวโกะ
ทางเลือกของซายากะ จุดยืนของสาวน้อยเวทย์มนต์ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น เชิญรับชมกันได้เลยครับ
*แปลมั่ว + โหลดโหดจ้ะ
(รูปไม่ขึ้นให้ลองเปลี่ยนเบราเซอร์แก้ขัดดูนะครับ)


เรื่องราวในเล่มสองนี้เริ่มขึ้นที่ซายากะกำลังต่อสู้กับแม่มดอยู่ และแม่มดในคราวนี้ก็มีความสามารถในการหลอกล่อหนีเข้าไปในประตูที่สร้างขึ้นมาและลอบโจมตีจากอีกประตูหนึ่งที่ยากจะคาดเดาได้


แต่ซายากะก็มีคุณมามิที่คอยสนับสนุนและช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ให้อยู่ว่าแล้วคุณมามิก็ได้เเก้ปัญหาด้วยการพลิกแพลงท่าไม้ตายด้วยการโจมตีทุกประตูพร้อมกันในทีเดียว


" ทีโล รีเจลคาเร่! "


เมื่อแม่มดตัวเล็กตัวน้อยกระเด็นออกมาจากประตูที่ไม่สามารถหลบหนีได้อีกต่อไป
ก็ถึงเวลาที่ซายากะจะปิดฉากการต่อสู้ และด้วยความร่วมแรงร่วมใจ ทำให้ทั้งคู่ปราบแม่มดลงได้


ระหว่างกลับ พวกมามิได้เจอกับโฮมุระ คุณมามิก็ทักทายพร้อมความสงสัยว่ามาทำอะไรตอนนี้ เพราะพวกเธอจัดการแม่มดในบริเวณนี้ไปหมดแล้ว ซายากะที่ไม่ค่อยชอบโฮมุระจึงพูดต่อว่าพวกเธอไม่เหลือกรีฟซี้ดไว้ให้โฮมุระหรอก


แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของโฮมุระในวันนี้คือมาเหน็บแนมว่ามามิมีพวกพ้องเพิ่มขึ้น แต่มีคนนึงที่ไม่ใช่สาวน้อยเวทย์มนต์
แล้วทำไมมามิถึงยังพาเธอมาเสี่ยงอันตรายด้วยอีก แต่มามิก็ไม่สนใจที่โฮมุระพูดและยืนกรานในวิธีของเธอเอง
เพราะตอนนี้เธอเองก็ตัดสินใจและเชื่อมั่นในทางที่เธอเลือกเดินเหมือนกัน
โฮมุระที่ไม่สามารถเถียงกลับอะไรได้จึงยอมจากไปเเต่โดยดี

แม้จะเลือกเดินคนละเส้นทาง แต่เป้าหมายของพวกเธอนั้นแทบไม่ต่างกัน
เหล่าสาวน้อยเวทย์มนต์ยังคงยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อต่อสู้กับแม่มดต่อไป


พวกมาโดกะได้มาพักผ่อนกันที่บ้านมามิ มาโดกะรู้สึกกังวลใจที่เธอเป็นภาระให้ทุกคน แถมเธอยังดูเหมือนเป็นตัวปัญหา
ทั้งที่จริงๆแล้วเธอเองก็ไม่อยากให้ทุกคนต้องทะเลาะกัน แต่คุณมามิก็บอกให้มาโดกะไม่ต้องห่วงและพยายามอธิบายถึงจุดยืนของแต่ละคน แต่มาโดกะก็ยังรู้สึกไม่ดีและคิดอยากหาความปราถนาให้ได้เร็วๆ คิวเบย์จึงสนับสนุนว่าถ้ามาโดกะเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์จะต้องมีพลังมากมายมหาศาลและเก่งกาจที่สุดแน่ๆ ถึงจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แต่บางครั้งคิวเบย์ก็พูดทำลายบรรยากาศเกินไป
คุณมามิจึงจับเอาขนมยัดปากซะเลย(ฮา)


ส่วนซายากะนอกจากจะยังเคืองโฮมุระไม่หาย เธอก็ยังฝังใจแค้นกับเคียวโกะจากเหตุการณ์ในคราวที่แล้วด้วยเหมือนกัน
(สรุปว่าต่อจากเล่มที่แล้วนั้นต่างคนต่างสงบศึกและแยกกันไป) เพราะเคียวโกะมาต่อว่าเธอว่าไม่สามารถทำอะไรได้และให้เลิกซะ
ทำให้ซายากะโมโหที่เคียวโกะไม่รุ้จักเธอแท้ๆ แต่กลับมาว่ากันแบบนี้ เมื่อบ่นไปซักพักซายากะก็รู้สึกตัวว่าเธอทำให้เสียบรรยากาศ เลยหยุดพูดและขอโทษมามิ เมื่อมาโดกะเห็นว่าสถานการณ์สงบลงแล้ว จึงถามซายากะว่าทำการบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้เสร็จหรือยัง แน่นอนว่าซายากะที่ปกติน่าจะไม่ได้ทำอยู่แล้ว ยังต้องมาสู้กับแม่มดอีก ทำให้ซายากะยกเรื่องสู้กับแม่มดมาอ้างยกใหญ่ และคิดว่ามามิเองก็คงยังไม่ได้ทำเหมือนกัน แต่คุณมามิทำเสร็จไปก่อนเรียบร้อยแล้ว(แป่ว..) แถมคุณมามิยังมีข้อมูลเกี่ยวกับแม่มดและสาวน้อยเวทย์มนต์ให้พวกซายากะอีกกองใหญ่ไปศึกษาเพิ่มเติมด้วย

กว่าจะมีเวลาเป็นของตัวเองก็ดึกดื่นแล้ว วันนี้มามิเหนื่อยมากกับการดูแลรุ่นน้องจนต้องหันไปบ่นกับคิวเบย์ที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย
แต่มามิก็คิดว่าพวกเธอที่เป็นอยู่แบบนี้นั้นก็ดีแล้วเหมือนกัน


คืนหนึ่ง มาโดกะได้ไปเรียกให้คุณมามิไปช่วยจัดการกับเเม่มด และเหยื่อของแม่มดในวันนี้ก็คือ ฮิโตมิ
เพื่อนร่วมห้องของมาโดกะกับซายากะ มามิเห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จึงขอบคุณมาโดกะที่เรียกให้เธอมาช่วย

เคียวโกะที่แอบดูอยู่ไม่เห็นซายากะอยู่ด้วย จึงได้ออกมาแกล้งกวนประสาทพวกมามิว่าวงแตกกันไปแล้วหรืออย่างไร
แต่คุณมามิก็สวนกลับแบบนิ่มๆแต่เจ็บตามสไตล์ว่าซายากะไม่ใช่คนที่จะหักหลังเธอเหมือนกับเคียวโกะหรอก


ไม่ใช่แค่โฮมุระจะทักเรื่องมาโดกะ แต่ไม่ว่าใครที่เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ก็คงสงสัยว่าจะพาคนที่ไม่ใช่สาวน้อยเวทย์มนต์มาด้วยทำไม คุณมามิเลยบอกว่ามาโดกะเองก็กำลังจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์เหมือนกัน เคียวโกะจึงถามมาโดกะว่าคิดดีแล้วงั้นเหรอ เพราะมาโดกะน่าจะรู้อยู่เเล้วว่าถ้าเธอเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์จริงๆ พวกเธอจะเป็นยังไง มาโดกะจึงบอกว่าถึงเธอจะไม่รู้อะไรเลย แต่ก็ขออย่าให้เคียวโกะคิดอย่างงั้นและอย่าว่าว่าสิ่งที่ซายากะทำนั้นไร้สาระ เคียวโกะจึงบอกว่าที่มาโดกะพูดเเบบนี้ได้ก็เพราะไม่รู้อะไรเลยนั่นเเหละ ตอนนี้พวกมาโดกะก็เเค่คอยพึ่งพิงรุ่นพี่ที่แสนดีอย่างมามิเท่านั้นเอง ถ้าไม่มีมามิก็ทำอะไรไม่ได้หรอก มามิจึงบอกให้เคียวโกะอย่าพูดอะไรเหลวไหลเเละอย่ามาพูดหว่านล้อมกับรุ่นน้องของเธอแบบนี้อีก แล้วมามิก็พามาโดกะไป

เมื่อพวกมาโดกะไป โฮมุระก็ได้มาคุยกับเคียวโกะที่อารมณ์เสียอยู่ เคียวโกะก็บ่นๆว่ามามิเป็นพวกชอบวางท่าทำตัวเป็นฮีโร่
โฮมุระจึงทักว่าเคียวโกะท่าทางจะรู้จักมามิเป็นอย่างดี เคียวโกะจึงบอกว่าเธอรู้จักก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน
และเธอเองก็ยังไม่ได้เชื่อใจโฮมุระซะทีเดียวเเต่เธอยอมร่วมวงด้วยเพราะเตรียมตัวเจอกับ [เทศกาลแม่มด] ต่างหาก

ทางด้านพวกมาโดกะ คุณมามิบอกว่ารู้จักกับเคียวโกะมาก่อน แต่มาโดกะไม่ต้องสนใจและขอให้เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์และทำตามความฝันที่ตนเชื่อมั่นให้เป็นจริงก็พอ มาโดกะเข้าใจที่มามิพูด เธอเองก็อยากจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์เหมือนกัน แต่เมื่อเห็นซายากะเป็นสาวน้อยย์เวทมนต์ มาโดกะก็คิดว่าเธอคงตัดสินใจเพื่อคำปราถนาที่ยิ่งใหญ่แบบนั้นไม่ได้ มาโดกะจึงได้ขอเวลาเวลาคิดเรื่องคำปราถนาอีกซักพัก คุณมามิก็ไม่ว่าอะไรและบอกว่าให้มาโดกะค่อยๆคิดไปแบบนี้แหละดีแล้ว

เช้าวันต่อมา ฮิโตมิมาเรียนด้วยความอ่อนเพลียจากผลกระทบเมื่อวาน ส่วนซายากะดูท่าทางซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
มาโดกะได้เเอบคุยกับซายากะเรื่องเมื่อคืนที่เธอไปปราบเเม่มดกับคุณมามิและขอโทษที่ไม่ได้ชวนซายากะไป
และมาโดกะก็ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับฮิโตมิด้วย


คุณมามิได้ยิงหลอกล่อและขอให้ซายากะตรึงร่างของเเม่มดที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นตัวเเม่เอาไว้
แต่มาโดกะรู้สึกว่าวันนี้ซายากะดูเเปลกไปจากทุกที


เมื่อตรึงร่างแม่มดไว้ได้แล้ว คุณมามิก็เตรียมยิงปิดฉากในทีเดียว แต่พื้นที่ยืนอยู่กลับเคลื่อนไหว ทำให้โจมตีพลาดเป้าไปแท้จริงแล้วยังมีศัตรูที่เหมือนต้นไม้ปีศาจซ่อนอยู่ด้วย คุณมามิจึงบอกให้ซายากะระวังตัว

แต่ซายากะกลับไม่รู้สึกตัว และกำลังจะโดนเล่นงานจากข้างหลัง

แต่ก่อนที่จะสายเกินไป มามิได้ใช้ริบบิ้นสีเหลืองป้องกันซายากะไว้และเป็นฝ่ายรับการโจมตีแทน


"คุณมามิ..."


มามิโดนจับไว้และโดนเล่นงานเข้าเต็มๆ แต่เธอก็ยังมีสติพอที่จะใช้พลังเวทย์ระเบิดศัตรูในระยะประชิดเพื่อคลายการถูกจับได้
มามิได้ร่วงหล่นลงมาพร้อมกับพลังเวทย์ป้องกันที่หายไปเพราะพลังอ่อนเเอลง


มาโดกะวิ่งเข้าไปหามามิโดยไม่สนใจว่าจะโดนลูกหลง
ซายากะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เธอก็คิดได้ว่าเวลานี้เธอต้องปกป้องทุกคน
ซายากะจึงเข้าไปต่อสู้คนเดียวเเม้ว่าเธอจะสู้ไมไ่ด้ก็ตาม


แต่แล้วเวลาก็หยุดลง ต้นไม้ปีศาจจำนวนหนึ่งได้ระเบิดไปพร้อมกับการปรากฏตัวของโฮมุระ
โฮมุระที่เหมือนจะมาช่วยก็ได้ต่อว่าซายากะว่าทำอะไรครึ่งๆกลางๆแบบนั้น คิดจะเล่นงานมามิหรือแม่มดกันแน่
เคียวโกะเองก็ได้ออกมาโวยวายให้เลิกเถียงกันแล้วไปช่วยมามิได้แล้ว


ซายากะนึกถึงตอนที่ทำสัญญากับคิวเบย์ ทำให้เธอนึกออกว่าเธอมีพลังในการรักษา
ซายากะจึงรีบรักษามามิทันที ส่วนโฮมุระก็ได้บอกกับเคียวโกะว่าเธอมีเรื่องที่ต้องทำ(ปกป้องมาโดกะ)
เพราะงั้นกรีฟชี้ดวันนี้จะยกให้เคียวโกะไปเลย เคียวโกะเลยไปลุยกับเเม่มดอย่างสบายใจ

"คุณคานาเมะ... คุณมิกิ..."

"เด็กพวกนั้น..."
เมื่อปราบแม่มดลงได้ เคียวโกะก็ได้เข้าไปต่อว่าซายากะทันที

"หัดดูสถานการณ์บ้างสิ มันเกี่ยวพันถึงชีวิตของพวกเธอเลยนะ! สาวน้อยเวทย์มนต์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ!!"

"การจับคู่กันมันไม่เหมือนการต่อสู้คนเดียว ถ้าอีกคนถูกเล่นงานมันก็หมายถึงอันตรายต่อชีวิต!
ใช่ว่าไปขอโทษแล้วเรื่องมันจะจบแค่นั้นนะ!"
"เรื่องนั้นน่ะ.. ถึงเธอไม่พูด ฉันก็รู้อยู่แล้วล่ะ!"

"ขอบคุณนะ คุณมิกิ ขอโทษที่เป็นตัวถ่วงนะจ๊ะ"
"โล่งอกไปที.. ขอโทษนะคะ คุณมามิ.. เป็นความผิดของฉันอง"
วันต่อมา

"ไม่ได้มาเจอกันที่นี่นานแล้วนะ"

วันต่อมา คุณมามิได้มาเจอเคียวโกะในสถานที่ที่คุ้นเคย แต่ก่อนที่จะคุยเข้าเรื่องกันจริงๆจังๆ
คุณมามิก็ได้ชวนเคียวโกะกินคุ้กกี้ที่เอามาด้วย

ถึงจะไม่ถูกกัน แต่แน่นอนว่าเคียวโกะไม่พลาดเรื่องของกินแน่นอน
แถมคุณมามิยังบ่นที่เคียวโกะกินแต่พวกอาหารสำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่
และว่าว่ายิ่งเคีวโกะกินจุแบบนี้ระวังจะอ้วนเอาได้

หลังจากหยอกล้อกันเเต่พอดี คุณมามิก็ได้ขอบคุณเคียวโกะเรื่องเมื่อวาน และชวนเคียวโกะให้มาร่วมต่อสู้ด้วยกันอีกครั้ง
เพราะสำหรับมามิแล้ว เธอขาดเคียวโกะไปไม่ได้จริงๆ แต่พอเห็นเคียวโกะทำท่าทางลำบากใจ
คุณมามิก็บอกว่าเคียวโกะเข้มแข็งจริงๆ ผิดกับตอนที่เจอกันครั้งแรกมากทีเดียว

แต่แล้วมามิก็ได้ถามว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เคียวโกะปรากฎตัวมาที่เมืองนี้อีก เพราะการทำแบบนี้
ก็เหมือนเคียวโกะยอมกลับคำพูดของตัวเอง และถ้ามีปัญหาอะไรทำไมถึงไม่ยอมช่วยหาทางเเก้ไขและร่วมเดินไปด้วยกัน
เพราะจนถึงตอนนี้มามิก็ยังยินดีที่จะช่วยเคียวโกะอยู่

เคียวโกะที่รู้สึกเหมือนโดนประชดประชันก็เริ่มทนฟังได้ไม่นานและโมโหที่มามิเองก็ไม่เข้าใจเธอเลยว่าถ้าหากมีเธออยู่ด้วย
มามิจะเป้นยังไงบ้าง และเธอก็ไม่อยากให้มามิต้องมามีส่วนรับผิดชอบกับปัญหาของเธอ และเรื่องนี้
มันก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องเวทย์มนต์อะไรทั้งนั้น เคียวโกะจึงได้ว่ามามิว่าชอบยุ่งไม่เข้าเรื่องทั้งที่เธอจบเรื่องไปแล้วแท้ๆ
และมามิไม่สามารถช่วยเธอได้หรอก

เคียวโกะบอกว่าเธอรู้จักนิสัยแบบซายากะดี คนแบบนี้ถ้าเพื่อคนอื่นแล้วคงทุ่มเทจนไม่คิดหน้าคิดหลังเเน่ๆ
(สะท้อนภาพเหมือนตัวเคียวโกะเอง) และเดี๋ยวคนแบบนี้ก็คงแยกวงกับมามิเหมือนเธอแน่ๆ

คุณมามิทนฟังเคียวโกะต่อไปไม่ไหว จึงขอตัวก่อนและขอโทษที่ทำให้เคียวโกะเสียเวลา
และถ้าเคียวโกะไม่มีอะไรแล้วก็ขอให้รีบออกไปจากเมืองนี้โดยเร็ว

ทางด้านพวกมาโดกะที่ไปโรงเรียน ซายากะก็ท่าทางซึมเศร้าหนักกว่าเดิม
เธอทักทายมาโดกะแบบผ่านๆแล้วเดินไปขอบคุณโฮมุระที่ช่วยมาโดกะกับคุณมามิเมื่อวาน
ซึ่งโฮมุระก็บอกว่าไม่เป็นไร

ในคืนวันนั้นเอง มาโดกะได้โทรมาขอให้คุณมามิช่วยดูแลซายากะด้วยอีกคน เพราะซายากะยังคงโทษตัวเอง
ที่ทำให้คุณมามิบาดเจ็บอยู่จนถึงตอนนี้ คุณมามิก็บอกว่าเธอจะช่วยปกป้องซายากะเอง
ขอให้มาโดกะไม่ต้องเป็นห่วง และคิดว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ทั้งสองคนต้องเป็นอะไรไปอีกแล้ว


ทางด้านซายากะที่เดินอยู่คนเดียวดึกๆดื่นๆ ก็ได้มาเจอเคียวโกะบอกให้เลิกจับคู่กับมามิซะ
เพราะซายากะในตอนนี้จะมีแต่เป็นตัวถ่วงเปล่าๆ เพราะงั้นการเลิกจับคู่กันซะตอนนี้จะเป็นวิธีที่ฉลาดกว่า
ซายากะไม่เถียงอะไรกลับ และบอกว่าเธอได้ฟังเรื่องของเคียวโกะจากคุณมามิมาแล้ว
และบอกว่าถึงพวกเคียวโกะจะทำเพื่อตัวเองจนยอมทิ้งผู้คนในเมืองนี้ไปเธอก็ไม่สนใจหรอก
เพราะเธอในตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิ์จะไปว่าอะไรใคร แล้วซายากะก็จากไป ปล่อยให้เคียวโกะงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น


วันต่อมา ซายากะได้ขอคุยกับมามิและขอแยกวงกันตั้งแต่นี้ไป แน่นอนว่ามามิต้องสงสัยว่าทำไมซายากะถึงคิดแบบนั้น
เพราะถ้าเป็นเรื่องที่เธอบาดเจ็บนั้นน่าจะคุยกันได้อยู่แล้ว แต่ซายากะก็ได้พูดถึงฮิโตมิที่พวกมามิช่วยไว้ในวันก่อน
สิ่งที่ทำให้ซายากะรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวงก็คือ การที่เธอรู้เรื่องที่ฮิโตมิถูกแม่มดสิงนั่นเอง

ย้อนกลับไปในตอนที่พวกซายากะได้เจอกับมามิไม่นาน
ซายากะได้ขอให้คนที่เธอรัก คามิโจ เคียวสุเกะ ได้เล่นไวโอลินได้อีกครั้ง


และซายากะก็ยอมเป็นสาวน้อยเวทย์เพื่อแลกกับคำปราถนานั้น ตั้งแต่นั้นมา ซายากะที่ได้เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์
ก็ได้จับคู่กับมามิและช่วยกันสู้มาตลอด (เป็นคนช่วยมามิจากการโดนอูมามินี่เอง)
และเธอตัดสินใจว่าไม่ใช่เพียงแค่เคียวสุเกะ แต่เธอจะปกป้องทุกคนด้วย

แต่เมื่อเคียวสุเกะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ฮิโตมิกลับมาขอคุยเรื่องเคียวสุเกะ
และขอให้ซายากะตัดสินใจ เพราะฮิโตมิเองก็ชอบเคียวสุเกะเหมือนกัน


ซายากะได้ยอมตัดใจจากเคียวสุเกะ และให้ฮิโตมิเข้าแทนที่ เพราะตอนนี้เธอเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์แล้ว หน้าที่ของเธอคือการต่อสู้ปกป้องทุกคนต่างหาก (ระหว่างเดินในเมือง ซายากะก็รู้สึกเหมือนเห็นฮิโตมิ เเต่พอไม่เห็นฮิโตมิเลยคิดว่าเธอคงคิดไปเอง)
แต่แล้วฮิโตมิที่ซายากะคิดว่าเธอคงจะมีความสุขไปแล้ว กลับกลัดกลุ่มเรื่องนี้มากจนทำให้ฮิโตมิถูกแม่มดสิง


ถึงคุณมามิจะบอกว่านั่นไม่ใช่ความผิดของซายากะ แต่ซายากะที่มักจะพูดเรื่องความถูกต้องอยู่เสมอไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้
เพราะเรื่องในคราวนี้ทั้งๆที่เธอเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์แต่กลับไม่รู้ตัวถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ถ้าเธอรู้คงไม่ทำให้เพื่อนของเธอต้องไปเสี่ยงอันตรายแบบนี้ และเธออาจจะทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนรอบข้างอีกก็ได้ เธออาจจะทำให้คนอื่นต้องบาดเจ็บอีก ซายากะจึงอยากแยกจากมามิไปต่อสู้คนเดียว และซายากะได้ขอให้มามิช่วยดูแลมาโดกะด้วย เพราะเธอไม่มั่นใจว่าจะปกป้องใครได้อีกแล้ว

"ฝากเด็กคนนั้นด้วยนะคะ แล้วก็ขอโทษนะคะ คุณมามิ"


เคียวโกะยังคงตามดูพวกมามิและเห็นว่าสุดท้ายก็วงแตกอย่างที่เธอคิดจริงๆ
ไม่นานโฮมุระได้มาคุยกับเคียวโกะและถามเคียวโกะด้วยความสงสัยว่าเคียวโกะคิดจะทำเป็นกวนประสาทคนอื่นจนถึงเมื่อไหร่
เพราะถึงเคียวโกะจะพยายามทำอะไรไปมันก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว พอเคียวโกะจะโวยวายโฮมุที่พูดเหมือนรู้เรื่องดีไปหมดทุกอย่าง
โฮมุระก็บอกว่าเธอแค่บอกจุดบกพร่องของเคียวโกะให้ฟังเท่านั้น เคียวโกะทนคุยด้วยไม่ไหว
เลยไประบายอารมณ์กับแแม่มดแทน

ต่างคนต่างเลือกเดินตามทางที่ตนเชื่อมั่น
สิ่งที่สาวน้อยเวทย์มนต์ทำได้คือต่อสู้ในทางที่ตนเลือกเดินต่อไปเท่านั้น

มาโดกะเป็นห่วงซายากะมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงเสนอให้ซายากะกลับไปร่วมทีมกับมามิอีกครั้ง
แต่ซายากะบอกว่าเธอจะเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ และบอกว่ามาโดกะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของเธอ
แต่สำหรับมาโดกะแล้ว ทั้งซายากะและคุณมามิต่างก็เป็นคนสำคัญของเธอ
ถึงทั้งคู่จะชอบบอกให้เธอไม่ต้องห่วง เเต่เธอก็ยังคงเป็นกังวลอยู่ดี

เคียวสุเกะที่เริ่มกลับมาเรียนได้แล้วได้มาหาพวกซายากะเพราะคิดว่าซายากะคงอยู่ที่นี่
ที่เขามาในครั้งนี้ก็เพื่อขอบคุณซายากะที่คอยช่วยเหลือและดูแลเขาอยู่ตลอด
ถึงจะไม่สามารถตอบแทนได้หมด แต่เคียวสุเกะก็ได้นำของบางอย่างมาให้ซายากะเป็นการขอบคุณ
(น่าจะเป็นอัลบั้มเพลง)


แต่ซายากะไม่ขอรับน้ำใจนั้นไว้และบอกว่าเธอค่อนข้างรู้สึกเกรงใจ และสิ่งที่เธอทำไปมันก็ไมไ่ด้สำคัญอะไร
และเธอเองก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรด้วย เพราะงั้นเคียวสุเกะน่าจะไปให้ฮิโตมิที่คอยเป็นห่วงเขามากกว่า
มาโดกะที่เห็นซายากะเอาแต่เบือนหน้าหนี เธอจึงขอพูดกับเคียวสุเกะโดยไม่สนใจคำห้ามของซายากะ
มาโดกะยังคงย้ำบอกกับเคียวสุเกะว่าคนที่ช่วยเหลือเขามาตลอดคือซายากะ เป็นเพราะซายากะยังเชื่อมั่นในความหวังที่มีอยู่
ทำให้เคียวสุเกะมีวันนี้ ถึงมันจะมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดให้เข้าใจได้ในตอนนี้(การหายดีอย่างรวดเร็วของมือของเคียวสุเกะ)
แต่ที่มาโดกะมาพูดแบบนี้ก็เพื่ออยากให้เคียวสุเกะรู้ว่าซายากะเป็นคนเดียวที่พยายามมาโดยตลอด
และเธอก็ไม่อยากเห็นซายากะต้องเศร้าใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว

ทว่าซายากะก็ยังคงยอมรับไม่ได้ เพราะเธอเองก็ทำให้ฮิโตมิเกือบตายมาแล้ว แต่เคียวสุเกะเองก็อยากจะรู้ความจริงทั้งหมด
ซายากะจึงขอเวลาคิดซักพัก เมื่อพร้อมแล้วเธอจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เคียวสุเกะฟัง
และซายากะก็ได้ขอตัวกลับบ้านก่อน ก่อนจากซายากะก็บอกกับมาโดกะว่าเธอตกใจเล็กน้อยที่มาโดกะกล้าทำแบบนี้
ราวกับไม่เหมือนมาโดกะคนเดิมเลย แต่ถึงอย่างงั้นซายากะก็รู้สึกขอบคุณมาโดกะที่ช่วยเหลือเธอจริงๆ

"ขอบคุณที่ทำเพื่อฉันนะ มาโดกะ"

ย้อนกลับไปในตอนที่เคียวโกะแยกวงจากมามิและต่อสู้คนเดียว เคียวโกะเก่งขึ้นเรื่อยๆก็จริง
แต่เธอก็แอบเป็นห่วงว่ามามิจะเป้นยังไงบ้าง คิวเบย์จึงชวนให้เคียวโกะกลับมาที่เมือง
เคียวโกะจึงเห็นว่ามามิกำลังมีความสุขอยู่กับรุ่นน้องคนใหม่ที่เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์เหมือนกัน

และตอนนี้ดูจากรูปการณ์ทั้งหมดเคียวโกะก็รู้ตัวว่าเธอต่างหากที่เป็นคนที่บ้าไปเอง
เพราะคนที่ไม่อยากให้เกิดเรื่องเหมือนในอดีตอีกก็คือตัวเธอเอง เคียวโกะไม่เคยคิดว่าการที่ทำแบบนั้น
มันเป็นเรื่องที่ดีแล้วจริงๆ เพราะสิ่งที่เธอต้องการจริงๆก็คือการที่ไม่ต้องให้ใครต้องมาเจ็บปวดเพราะเธอและเป็นเหมือนเธออีก


ถึงอย่างงั้นกลับมีคนที่ซ้ำรอยเดิม
ในตอนนี้เคียวโกะกำลังต่อว่าซายากะที่หมดอาลัยตายอยากชนิดเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่
ถ้าเคียวโกะไม่มาช่วย ซายากะคงตายไปแล้ว ซายากะบอกว่าถ้าเคียวโกะสู้เพื่อตัวเองไม่ได้ปกป้องใครก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาสนใจเธอ เคียวโกะจึงบอกว่าเพราะเธอเห็นซายากะเป็นเหมือนตัวเธอในอดีต
ตัวเธอที่สู้เพื่อคนอื่นโดยไม่สนใจว่าตัวเองต้องตายและทำให้ใครคนหนึ่งต้องผิดหวัง

แต่ท่าทางซายากะยังไม่ยอมเข้าใจอะไรอยู่ดี เคียวโกะจึงได้นั่งคุยด้วย ซายากะรู้สึกกลัวและเป็นกังวล
กับฐานะของเธอในตอนนี้และเริ่มกลัวที่จะมีคนรู้ความจริง และบอกว่าเคียวโกะคงคิดว่าเธอขี้ขลาดมาก
เคียวโกะจึงบอกว่าเธอแค่รู้สึกคล้ายๆกับตัวเธอเท่านั้น และให้ซายากะไม่ต้องสนใจว่าใครจะมองเรายังไง
แค่มีชีวิตอยู่แล้วทำตามที่ต้องการก็พอแล้ว และพวกเธอก็ไม่เหมือนมามิ
จะให้ทำตัวเป็นฮีโร่แบบนั้นคงทำไม่ได้หรอก

แต่ซายากะก็บอกว่าถึงเธอจะเป็นแบบมามิไม่ได้ แต่เธอก็ไม่อยากเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ที่สู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เพราะงั้นเธอคงจะตอบรับสิ่งที่เคียวโกะต้องการไม่ได้ เคียวโกะพยายามห้ามซายากะว่าซายากะไม่เข้าใจอะไรเลย
แต่ซายากะก็ไม่รับฟังและฝืนไปสุ้กับแม่มดด้วยตัวคนเดียว

"มาช้าจริงนะ ยัยบ้าเอ๊ย"

"ไม่อยากให้ฉันพูดหว่านล้อมรุ่นน้องคนสำคัญใช่มั้ยล่ะ งั้นจะปล่อยให้เธอจัดการเอาเองละกัน
ยัยนั่นไปจัดการแม่มดทางนั้นแล้ว ถ้าไม่รีบตามไป รุ่นน้องที่อ่อนแอยิ่งกว่าตัวฉันในอดีต
จะกลายเป็นอาหารให้แม่มดเอาได้นะ จะเอาไงล่ะ?"

"นั่นสินะ.. คุณเองก็คงคิดเหมือนกันสินะ
ว่าไม่อยากหวนกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นอีกแล้วน่ะ"


แน่นอนว่าซายากะที่ฝืนสังขารไม่สามารถสู้เเม่มดได้เลย
และทำให้ซายากะกำลังจะโดนเเม่มดฆ่าอย่างง่ายดาย

แต่แล้วแสงสีเหลืองทองก็ได้พุ่งเข้ามาช่วยปกป้องซายากะไว้
พร้อมกับรุ่นพี่ที่แสนดีที่ปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้า เธอคือรุ่นพี่ที่พร้อมช่วยเหลือทุกคนเสมอ

"เราจะสู้ไปด้วยกันไม่ใช่เหรอ คุณมิกิ"

คุณมามิมาช่วยซายากะและชวนเธอกลับไปหาทุกคน แต่ซายากะไม่อยากกลับไปอีกแล้ว ซายากะคิดว่าตอนนี้เธอเป็นคนที่เลวที่สุด เธอไม่สามารถปกป้องใครได้ ไม่สามารถโกหกตัวเองได้ เพราะงั้นเธอยอมหนีต่อไปแบบนี้ยังจะดีกว่า

คุณมามิจึงบอกว่าถ้าซายากะไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง
ขอแค่ซายากะคิดยังไงทุกอย่างมันก็จะเป้นไปตามนั้น และคุณมามิก็ได้บอกว่าตัวเธอเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ดีอะไร
เธอมักจะเก็บซ่อนความเหงาเอาไว้ด้วยการทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดีของทุกคน
ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเพียงแค่ต้องการใครบางคนเท่านั้น

คุณมามิขอให้ซายากะอยู่ต่อไป ถ้าอยู่เพื่อตัวเองไม่ได้ก็ขอให้อยู่เพื่อเธอ แล้วเธอเองก็จะเลิกทำตัวเสแสร้งเหมือนกัน
ซายากะจึงตระหนักได้ว่ายังมีคนที่เห็นว่าเธอสำคัญและยังจำเป็นต้องมีเธออยู่

"ฉันดีใจนะคะ ที่มีคนให้ความสำคัญกับคนแบบฉันถึงขนาดนี้"

"หลังจากนี้ไปดื่มชากับทุกคนแล้วค่อยช่วยกันคิดก็ได้นะจ๊ะ
เอาล่ะ กลับกันเถอะ คุณคานาเมะกำลังรออยู่นะ เค้กวันนี้ฉันตั้งใจทำเต็มที่เลยล่ะ!"
"ขอบคุณนะคะ คุณมามิ"


แต่แล้ว เคียวโกะกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
พอเคียวโกะจะไปยังที่เกิดเหตุที่เธอรู้สึกได้ โฮมุระก็ได้มาห้ามไว้

โฮมุระรู้ว่าเคียวโกะคิดจะไปหาพวกมามิ แต่เธอได้มาห้ามไว้เพราะถ้าไปแล้วเคียวโกะจะทำอะไร
คิดจะช่วยเหลือจนตัวตาย? ไม่ว่ายังไง ตอนนี้การไปช่วยพวกมามิมันก็สายเกินไปแล้ว

ทางด้านเคียวสุเกะที่กำลังกลับบ้านกับฮิโตมิ ทั้งคู่ก็ได้เจอกับฝนที่ตกลงมา
ในตอนนี้เคียวสุเกะกำลังพยายามทำสิ่งที่เขาทำได้ด้วยตัวคนเดียว
และเขาก็ได้นึกถึงคนที่ทำให้เขากลับมามีโอกาสใช้ชีวิตแบบนี้ได้อีกครั้ง

ทางด้านมาโดกะก็ได้ตามหาคุณมามิกับซายากะที่ขาดการติดต่อไป มาโดกะอยากขอบคุณซายากะที่คอยช่วยเหลือเธอ
และมาโดกะอยากขอโทษที่เธอเป็นเพื่อนที่ไม่สามารถช่วยอะไรซายากะตอนที่มีเรื่องทุกข์ใจได้เลย

คิวเบย์ได้มาหาคุณมามิที่นอนหมดสภาพอยู่ท่ามกลางสายฝน เกิดอะไรขึน.. ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้..
มามิในตอนนี้ได้เเต่สับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊

คิวเบย์บอกกับมามิว่าสิ่งที่พวกมามิทำนั้นไม่ได้สูญเปล่า
เพราะแต่เดิมนั้นพวกมามิก็เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ที่ต้องกลายเป็นเเม่มดเข้าซักวันอยู่แล้ว
แต่สำหรับมามิแล้ว ปัญหาของเธอตอนนี้ก็คือซายากะที่ได้จากไปแล้ว

"คิวเบย์.. ทำไมคุณมิกิถึงกลายเป็นแม่มดไปได้ล่ะ"
"ไม่ต้องอธิบาย เธอก็น่าจะรู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้วนี่นา คนที่ทำให้ มิกิ ซายากะ เป็นแม่มดก็คือ
อาเคมิ โฮมุระ.. ซากุระ เคียวโกะ.."

" และโทโมเอะ มามิ พวกเธอเองไม่ใช่รึไงล่ะ? "
ความหวังพังทลายจนหมดสิ้น
ความสิ้นหวังที่รุนแรงจนไม่อาจช่วยไว้ได้ทัน ทำให้ซายากะกลายเป็นแม่มดไปแล้ว
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ของแถม แปลมั่วการ์ตูนสั้นๆในเล่มนี้



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น