
~The different story~
อีกเรื่องราวของพวกมาโดกะที่แตกต่างไปจากเดิม ในเล่มแรกนี้จะเริ่มด้วยการพบกันของเคียวโกะและคุณมามิโดยเราจะได้รู้ที่มาว่าทั้งสองคนรู้จักกันได้ยังไงพร้อมกันเนื้อเรื่องที่แตกต่างไปจากเดิม
จะเป็นยังไงนั้น เชิญติดตามกันได้เลย
*แปลมั่ว + โหลดโหดจ้ะ
(รูปไม่ขึ้นให้ลองเปลี่ยนเบราเซอร์แก้ขัดดูนะครับ)


เรื่องเริ่มที่คุณมามิกำลังต่อสู้กับแม่มดพร้อมกับสาวน้อยเวทย์มนต์อีกสองคนที่เพิ่งได้เจอกัน


แต่พอสาวน้อยอีกสองคนเห็นท่าว่าสู้ไม่ได้จึงขอตัวลี้ภัย แล้วทิ้งให้มามิต้องสู้คนเดียว
ถึงจะตัวคนเดียว แต่คุณมามิก้ยังสู้ได้ เพราะเธอไม่ได้มาอยู่ที่นี่ตอนนี้เพื่อหนี แต่เพื่อปกป้องทุกคนต่างหาก

เมื่อจัดการแม่มดได้ สองสาวก็หันมาชมมามิและขอโทษที่เมื่อกี๊พวกเธอปล่อยให้ต้องสู้คนเดียว
แต่คุณมามิก็ไม่ถือสาอะไร แถมจะยกกรีฟซี้ดให้สองสาวไปชำระล้างโซลเจมด้วย แต่สองสาวไม่ขอรับไว้
และเห็นว่ามามิสู้คนเดียว ควรจะเป็นห่วงตัวเองดีกว่า และสำหรับพวกเธอแล้ว
สาวน้อยเวทย์มนต์ก็เหมือนเป็นคู่แข่งกันด้วย

สองสาวบอกลาและออกล่ากรีฟซี้้ดต่อไป
สุดท้ายคุณมามิก็อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว

1ปีผ่านไป คุณมามิก็ยังต้องสู้อยู่คนเดียว แม้แต่ที่โรงเรียนก็ยังไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท
เพราะเธอต้องคอยจัดการแม่มดทุกเย็น ทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวเล่นที่ไหนกับเพื่อนๆได้
และวันนี้มามิก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังสู้กับแม่มดที่ตามหาอยู่

คนที่สู้อยู่ก็คือเคียวโกะที่มาเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ได้ซักพักแล้ว
นอกจากนี้ยังมีความสามารถแยกร่างได้ด้วย (ท่าในเกมกับในดราม่าCD)


เคียวโกะปราบแม่มดได้สบายๆ แต่คิวเบย์เตือนว่ามันยังไม่ตาย
ด้วยความชะล่าใจทำให้เคียวโกะโดนจับได้และกำลังจะโดนเล่นงาน

แต่คุณมามิก็ได้โผล่ออกมาช่วยแบบเท่ๆ ด้วย "ทีโล ฟีนาเล่!"
(เวอร์ชั่น ทวินบัสเตอร์ไรเฟิลW)

มามิวิเคราะห์ศัตรูว่าจุดอ่อนของแม่มดนั้นคือขวานที่ถืออยู่และเสนอให้เคียวโกะช่วยกันสู้
ซึ่งเคียวโกะก็ตกลง



และแล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปราบแม่มดในวันนี้ลงได้


เสร็จงานแล้วทั้งคู่ก็ได้แนะนำตัวกัน เคียวโกะก็ได้ขอบคุณคุณมามิที่ช่วยไว้
เพราะถ้าไม่มา เธอคงหัวหลุดไปแล้ว คุณมามิก็บอกไม่เป็นไร
ก่อนจากกัน คุณมามิก็ได้เสนอให้แบ่งกันใช้กรีฟซี้ดคนละครึ่ง

พอแลกกันใช้กรีฟซี้ดเสร็จ เคียวโกะก็ยังไม่ได้กลับ เพราะโดนคุณมามิล้อหลอกให้มากินขนมที่บ้าน
(แถมยังติดกับที่ว่ายังมีอีกเยอะ กินคนเดียวไม่หมดด้วย) ถึงจะเห็นเหมือนเคียวโกะเห็นแก่กิน
แต่ที่จริงแล้วก็เเอบเกรงใจเหมือนกัน

เคียวโกะได้คุยเรื่องที่มาเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์และคิดว่าตัวเธอนั้นยังไม่เก่งพอ
เคียวโกะจึงอยากขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับมามิ

วันต่อมา เพื่อนๆของคุณมามิที่โรงเรียนเห็นว่าท่าทางอารมณ์ดีผิดปกติเลยสงสัยว่าไปแอบมีแฟนรึเปล่า
แต่คุณมามิก็บอกแบบเขินอายว่าเพราะเธอมีเพื่อนแล้ว และเธอก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนในครั้งนี้เเตกต่างไปจากเดิม
อาจจะเป็นเพื่อนที่สามารถร่วมเดินไปด้วยกันที่เธอตามหามาตลอดก็ได้ (อันที่จริงใช่ว่าคุณมามิจะไม่มีเพื่อนเลย
เพราะพวกเพื่อนๆของคุณมามิก็ไม่ได้รังเกียจอะไรที่คุณมามิชอบทำตัวเหินห่าง
และยังบอกว่าพวกเธอก็เป็นเพื่อนของคุณมามิเหมือนกัน)


และเพื่อนหรือเด็กน้อยคนที่ว่าก็เริ่มมาดักรออยู่ทุกวัน เพราะมามิได้สัญญาไว้ว่าจะช่วยเหลือเท่าที่ทำได้
ทั้งคู่จึงกลายเป็นทีมเดียวกัน ช่วยกันสู้กับแม่มดทุกวันเสมือนเป็นคู่ไร้เทียมทาน


เคียวโกะเริ่มสนิทกับมามิมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเรียกมามิว่า "รุ่นพี่มามิ"
พร้อมกับฝากตัวเป็นรุ่นน้องอีกครั้ง คุณมามิก็เขินที่ถูกเรียกว่ารุ่นพี่และดีใจที่มีรุ่นน้องเป็นครั้งแรก


วันต่อมา หลังปราบแม่มดเสร็จ เคียวโกะก็ได้ชวนคุณมามิคุยเรื่องแม่มด
และสาเหตุที่คุณมามิมาเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์ ซึ่งคุณมามิก็ได้เล่าเรื่องอุบัติเหตุเฉียดตายที่เคยเจอ
พอได้ฟังเรื่องทั้งหมด เคียวโกะจึงขอเปลี่ยนบรรยากาศไม่ขอไปบ้านคุณมามิ เเต่เสนอให้ไปบ้านของเธอเอง

คุณมามิได้มาทานข้าวเย็นที่บ้านครอบครัวสุขสันต์ของเคียวโกะ
ไม่ทันไร โมโมะ น้องสาวของเคียวโกะ ก็ติดคุณมามิไปอีกคน
(ติดมามิทั้งพี่ทั้งน้องเพราะมามิเป็นเหมือนมีสาวที่แสนดีเพิ่มมาอีกคน)


พ่อของเคียวโกะเป็นบาทหลวงผู้เผยแพร่หลักธรรม แถมช่วงนี้มือขึ้นเป็นพิเศษ(แม้จะไม่ถูกหวย)
เพราะมีคนมาฟังคำสอนเยอะขึ้น ทำให้ครอบครัวกินดีอยู่ดีและมีความสุขมากขึ้น
ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ต้องทรมานอยู่กับความยากจน.. ขากลับ เคียวโกะได้เดินมาส่งคุณมามิ
และเล่าเรื่องคำปราถนาของเธอที่มาเป็นสาวน้อยเวทย์มนตรให้ฟัง์ว่าเธอขอให้ทุกคนฟังที่พ่อพูด


และความหมายที่แท้จริงของคำปราถนาของเคียวโกะก็คือการ "ปกป้องความสุขของทุกคน"
เพราะงั้นเธอเลยยอมมาเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์ ทำให้คุณมามิเห็นว่าเด็กคนนี้เป้าหมายเหมือนกับเธอ
โซลเจมของทั้งคู่ส่องแสงขึ้นพอดี คิวเบย์มาบอกว่ามีเรื่องแล้ว ทั้งคู่จึงรีบไปจัดการแม่มดทันที

เวลาของทั้งคู่ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ปราบแม่มด ช่วยผู้คน และฝึกซ้อม
เคียวโกะก็เริ่มฝึกใช้ท่าเเยกร่างได้เก่งขึ้น ซึ่งคุณมามิเสนอให้ใช้ชื่อ [รอซโซ่ แฟนทาสม่า]
แต่เคียวโกะคงตะโกนชื่อท่าเท่ๆตอนสู้แบบคุณมามิไม่ไหว(ฮา)
ทั้งคู่ต่างรู้สึกโชคดีที่โชคชะตาได้นำพาให้พวกเธอมาเจอกัน


เคียวโกะรู้สึกว่าถ้าเป็นตอนนี้ พวกเธออาจจะเก่งกาจพอที่จะช่วยกันปราบ [เทศกาลแม่มด] ได้ก็ได้
คุณมามิเองก็ยินดีที่จะร่วมมือด้วยเต็มที่ ถ้าหากวันนั้นมาถึง...


ในกลางดึกคืนหนึ่ง โซลเจมของเคียวโกะส่องแสงขึ้นพร้อมคิวเบย์ที่่มาปลุกว่า ตื่นๆ มีเรื่อง(อีก)แล้วเคียวโกะรีบไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นโบสถ์ของพ่อ และพบว่าพวกชาวบ้านกำลังจะเผาหนังสือของพ่อเธอทิ้ง


แต่เคียวโกะก็ได้ใช้เวทย์สับเปลี่ยนไม้ขีดกับขนมป๊อกกี้ก่อนที่จะสายเกินไป(แถมยังไปฉกมากินเองอีก)เมื่อแม่มดที่บงการจิตใจเผยตัวจริง เคียวโกะก็ฉุนขาดและไม่ยกโทษให้กับคนที่มาขัดขวางพ่อของเธอ


แม่มดคราวนี้ไม่เสียท่าง่ายๆแม้จะโดนโจมตีไปเต็มๆ แถมยังปล่อยลูกน้องมาโจมตีได้ด้วยแต่เคียวโกะก็มีทีเด็ดเอาไว้เวลาสู้คนเดียวเหมือนกัน..

"โทษทีนะ ชั้นไม่ยอมโดนเล่นงานคนเดียวหรอก"
เคียวโกะได้ใช้ รอซโซ่ แฟนทาสม่า! ทำให้มีเคียวโกะเต็มไปหมด
ถ้าคนเดียวจัดการไม่ได้ก็ใช้หลายคนรุมพร้อมกันซะเลย

"เป็นแม่มดแล้วจะมาทำอะไรตามใจชอบในที่แบบนี้ได้รึไง
ทั้งโบสถ์ของพ่อ.. ทั้งครอบครัว.. ฉันจะปกป้องทุกคนด้วยมือคู่นี้เอง!"

เคียวโกะสามารถจัดการแม่มดได้ด้วยตัวคนเดียว ส่วนเรื่องที่เหลือ เธอคงต้องรีบจัดการโดยเร็ว
ไม่เป็นไร.. ยังมีเวลาอยู่... เวลาที่เธอจะปกป้องรักษาความสุขนี้เอาไว้

แต่ทว่า พ่อของเคียวโกะได้พบกับความจริงเข้า
เวลาที่เหลืออยู่ของเคียวโกะหมดลงแล้ว...


โมโมะได้ตื่นมากลางดึกและพบว่าพ่อกับพี่สาวของเธอออกไปข้างนอก แต่พ่อของเธอบอกให้ไม่ต้องห่วง
และให้เธอไปนอนต่อ ในตอนนี้พ่อของเคียวโกะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับคำปราถนาหมดแล้ว

วันต่อมา เคียวโกะได้มาที่บ้านของคุณมามิเหมือนปกติ แต่ได้ถามมามิเรื่องการเปิดเผยตัวตน
ซึ่งปกติแล้วมามิหรือคนอื่นก็ไม่ได้บอกความจริงกับใครเหมือนกัน ซึ่งคุณมามิก็รู้สึกว่าเคียวโกะ
มีเรื่องอะไรบางอย่างซึ่งเคียวโกะไม่กล้าบอก คุณมามิบอกว่าเธอพร้อมรับฟังเสมอเพราะไม่อยากให้ฝืนเกินไป


หลังจากรู้ว่าผู้คนไม่ได้ศรัทธาในตัวเขาจริงๆ พ่อของเคียวโกะก็กินเหล้าเมามายไม่สนใจใครอีก
เคียวโกะพยายามบอกพ่อว่าเธอพยายามปราบแม่มดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
แต่พ่อของเคียวโกะกลับไม่สนใจและไม่ยอมรับ ซ้ำยังต่อว่าเคียวโกะอย่างหนักที่ทำให้เขากลายเป็นคนไร้ค่า


ทางด้านคุณมามิก็ได้เป็นห่วงที่ไม่ได้พบเคียวโกะมาหลายวันแล้ว
มามิเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อนึกถึงช่วงที่เธอเคยสู้คนเดียวและต้องแบกรับสิ่งต่างๆมากมายเอาไว้
ถ้าหากเคียวโกะจากเธอไป เธอคงไม่สามารถปกป้องเมืองนี้ด้วยตัวคนเดียวได้อีกแล้ว

ในคืนวันหนึ่ง คุณมามิได้ยินข่าวประกาศระหว่างที่เดินอยู่ในเมือง
ซึ่งเป็นข่าวฆาตกรรมครอบครัวและฆ่าตัวตาย และนามสกุลนั้นก็เป็นนามสกุล ซากุระ ที่เธอคุ้นเคย

ทางด้านเคียวโกะได้ยืนครุ่นคิดเรื่องราวทั้งหมดอยู่คนเดียวพร้อมกับบอกคิวเบย์ว่า
เธออยากเลิกทุกสิ่งทุกอย่างและไม่อยากได้พลังนี้อีกแล้ว


เมื่อสู้กับเเม่มด เคียวโกะเป็นฝ่ายรับการโจมตีอย่างเดียวโดยไม่สามารถสู้ได้เลย
สุดท้ายเคียวโกะก็ล้มลงและเตรียมตัวพบกับจุดจบอีกครั้ง

เคียวโกะได้นึกถึงอดีตอดีตที่เธอเกือบได้พบกับจุดจบมาแล้วหลายครั้ง ทั้งตอนที่ต้องอยู่อย่างลำบาก
ไม่มีอะไรกิน ตอนที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเเอปเปิ้ลลูกเดียว ตอนที่ถูกตราหน้า ตอนที่ไม่เป็นที่ยอมรับ
ตอนที่ความสุขหายไป และตอนที่ได้เห็นพ่อทำร้ายครอบครัวโดยการฆ่าทุกคนและฆ่าตัวตายตาม

เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดต่างๆ เคียวโกะก็ได้ฮึดสู้อีกครั้งและทุ่มพลังจัดการแม่มดได้ในทีเดียว

เคียวโกะสู้จนหมดแรงจนลุกไม่ขึ้น มีเพียงคิวเบย์เท่านั้นที่เป็นเพื่อนคุยในตอนนี้
แต่คิวเบย์ก็บอกว่าเป็นเพราะมีเคียวโกะอยู่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งๆที่ไม่มีใครต้องการเคียวโกะอีกแล้ว
ทำให้เคียวโกะได้แต่นอนปลงกับตัวเองว่าสิ่งที่เธอทำไปนั้นมันผิดงั้นหรือ

"ทั้งๆที่มาเป็นสาวน้อยเวทย์มนต์เพราะอยากปกป้องพ่อกับทุกคนในครอบครัวแท้ๆ..
แต่สารรูปแบบนี้ แค่จะปกป้องตัวเองยังทำไม่ได้เลย..."

ในที่สุด คุณมามิก็ได้ตามหาเคียวโกะจนพบ แต่เคียวโกะมีสภาพที่ย่ำแย่เต็มที

มามิได้ขอโทษเคียวโกะที่เธอปล่อยให้ต้องแบกรับเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว
และสิ่งที่เธอดีใจที่สุดในตอนนี้คือการที่เคียวโกะยังมีชีวิตอยู่
แต่เคียวโกะทำได้เพียงร้องไห้และโทษตัวเองที่เลือกทางเดินผิดพลาดเท่านั้น

"ทั้งหมด.. ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ฉันเป็นคนที่ทำให้ทุกคนตาย"

เคียวโกะมาพักฟื้นที่บ้านมามิ มามิพยายามให้เคียวโกะพักผ่อนก่อนและบอกให้อย่าแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว
เพราะยังมีเธอที่พร้อมช่วยเหลือทุกอย่างอยู่ แต่ตอนนี้เคียวโกะไม่สามารถตอบรับความต้องการของมามิได้อีกแล้ว

"ขอโทษนะ คุณมามิ.. แต่ฉันไม่สามารถต่อสู้ไปพร้อมกับคุณได้อีกแล้ว"

เคียวโกะได้แอบหนีออกมาและยังฝืนออกไปสู้ด้วยตัวคนเดียว
ทำให้มามิต้องมาคอยตามดูแล


แต่เคียวโกะกลับไม่เชื่อใจมามิอีกแล้ว เธอบอกว่ามามิเอาแต่ทำเป็นพูดจาใหญ่โต
และบอกว่าที่จริงแล้วมามิไม่ได้คิดสู้เพื่อใคร แต่คิดสู้เพื่อตัวเองทั้งนั้น
ต่อไปนี้เธอจะล่าแม่มดด้วยพลังนี้ที่มีไว้เพื่อตัวเธอเอง โดยไม่คิดช่วยเหลือใครอีกต่อไปแล้วและเธอจะขอจบกับมามิที่นี่ตรงนี้

แต่มามิกลับจับมือเคียวโกะไว้
เพราะเธอไม่สามารถปล่อยให้เคียวโกะที่เจ็บปวดจนไม่ยอมเชื่อใจใครไปได้

"จะให้ปล่อยเธอที่เป็นแบบนี้ไปน่ะ ฉันทำไม่ได้หรอก"
"ถ้างั้น ต้องให้ฉันจัดการคุณก่อนถึงจะไปได้สินะ"

"งั้นเหรอ... ดูท่าจะไม่ยอมคุยกันดีๆเลยสินะ เธอนี่เป็นรุ่นน้องที่สร้างปัญหาได้ตลอดจริงๆ!"


ทั้งคู่สู้กันอย่างดุเดือด แต่ด้วยฝีมือและประสบการณ์ ทำให้คุณมามิเป็นฝ่ายได้เปรียบกว่าเคียวโกะมาก

ทว่ามามิกลับจงใจโจมตีพลาดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เคียวโกะโมโหและเป็นฝ่ายเข้าไปโจมตีเอง

เคียวโกะบอกมามิว่าพวกเธอจะหนีต่อไปไม่ได้อีกแล้ว และขออย่าให้มายุ่งกับเธออีก
จากนี้ต่อไปเธอจะไม่เดินบนเส้นทางเดียวกับใครอีกแล้ว

"จากนี้ฉันจะสู้ด้วยวิธีของตัวเอง ที่ผ่านมาได้คุณช่วยไว้เยอะจริงๆ"

"คุณซากุระ สำหรับฉันแล้ว เธอน่ะ เป็นเพื่อนในฐานะสาวน้อยเวทย์มนต์ที่ฉันตามหามาตลอด
เป็นเพื่อนที่ฉันเชื่อใจมากกว่าสาวน้อยเวทย์มนต์คนอื่นๆ... ให้เป็นแบบนี้มันดีแล้วจริงๆเหรอ"

"ไม่ได้จริงๆสินะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ทุกทีเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ.. ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วสิ"

"ถ้าเป็นคุณล่ะก็ ซักวันจะต้องได้พบกับเพื่อนที่เข้าใจกันได้แน่ๆ"

เวลาปัจจุบัน คุณมามิได้ตื่นขึ้นมาจากความฝันในอดีตที่น่าเศร้า
เพราะมาโดกะรุ่นน้องของเธอในตอนนี้ได้มาขอให้ช่วย


มาโดกะมาตามมามิให้ไปช่วยซายากะที่กำลังโดนสาวน้อยเวทย์มนต์เล่นงานและกำลังจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
แต่ไม่นานนักการต่อสู้ก็หยุดลงเมื่ออีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงการมาของใครบางคน

"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เด็กคนนั้นเป็นรุ่นน้องคนสำคัญของฉันนะ
อย่าสอนเรื่องไม่ดีให้เขาสิ.. คุณซากุระ"

"อะไรกัน นึกว่าตายไปแล้วซะอีกนะเนี่ย รุ่นพี่มามิ?"
การพบกันอีกครั้งในช่วงเวลาที่แตกต่าง
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น