

วันที่6 ตุลาคม
โอคาเบะกับดาลุได้มาที่ร้านของเฟริส
โอคาเบะก็ได้พลั้งปากเรื่องไทม์เเมชชีนออกไปจนทำให้เฟริสที่มาเสิร์ฟเครื่อง
ดื่มรู้สึกสนใจมาก
ดาลุที่สวามิภักดิ์ต่อความน่ารักของเฟริสจึงบอกเธอจนหมดเปลือก
ทำให้เฟริสรู้สึกสนใจที่จะส่งข้อความไปยังอดีตบ้างเหมือนกัน




ระหว่างที่จะเอาผ้ามาตากที่ดาดฟ้า
โอคาเบะพบมากิเสะกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคน
ซึ่งดูเหมือนการพูดคุยนั้นจะเหมือนการเถียงกันซะมากกว่า
เเต่เมื่อมากิเสะเห็นโอคาเบะ เธอก็วิ่งหนีไป ในเวลาต่อมา
เมื่อโอคาเบะมานั่งพัก
มากิเสะก็ร้อนรนบอกโอคาเบะที่ยังไม่ทันพูดอะไรว่าเธอไม่ได้ร้องไห้
เเม้ว่าตอนนี้ตาเธอจะเเดงอยู่ก็ตาม
เเต่มากิเสะก็ได้มานั่งกอดหมอนอูป้าเเละร้องไห้ออกมาจนได้
โอคาเบะจึงปลอบใจสาวน้อยอัจฉริยะว่า "ไม่ว่าเมื่อไหร่ เธอก็ยังเป็นพวกพ้องคนสำคัญเสมอ" เเต่ในระหว่างที่มากิเสะกำลังซึ้ง โอคาเบะก็หันไปคุยโทรศัพท์กับตัวเองเเล้วหัวเราะอย่างสะใจที่เเผนการสำเร็จ


เฟริสได้มาถามเรื่องไทม์เเมชชีนกับมายูริ
มายูริบอกว่าเธอก็เเอบกลัวอยู่เหมือนกันที่ตอนทดลองนั้นมีไฟฟ้าออกมา
เเละที่สำคัญเลยคือโอคาเบะเหมือนจะสนใจไมโครเวฟนั้นมากกว่าเธอซะเเล้ว


วันต่อมาโอคาเบะคิดจะทดลองจริงด้วยการใช้
ร่างกายคนทดลอง เเต่ประเด็นกลับถูกเบี่ยงเบนไปที่มายูริที่ต้องไปร.ร.
เลยเเต่งชุดน.ร.มาเเบบน่ารักจับจับใจซะมากกว่า

เเต่ที่ไม่สนใจโอคาเบะกันก็เพราะมากิเสะคิด
ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะทดลองกับสิ่งมีชีวิต
มากิเสะจึงได้พูดให้โอคาเบะกลัวว่าถ้าเกิดเขายังดื้อดึงต่อไปคงได้กลายเป็น เจลโอคาเบะ เเน่นอน ถึงจะพิสูจน์ไม่ได้ว่าทำไมถึงส่งข้อความไปในอดีตได้ เเต่ยังไงการทดลองเเบบนี้ก็ไม่ควรทำเพราะไม่มีทางสำเร็จได้เเน่ๆ




โอคาเบะคิดจะให้ดาลุเเฮ็คข้อมูลของSERNอีกครั้ง เเต่เขาก็ต้องจิตตกอีกรอบเมื่อเขาพบว่า IBN5100 หายไปเเล้ว ซ้ำร้ายที่ไม่มีใครจำได้ว่ามันเคยอยู่ที่นี่ รวมถึงเรื่องที่ดาลุเคยเเฮ็คข้อมูลของSERNด้วย มากิเสะจึงสรุปได้ว่านี่คือปรากฏการ "Butterfly Effect" ซึ่งเป็นผลจากการที่อดีตนั้นได้เปลี่ยนเส้นทางใหม่

โอคาเบะได้โทรไปถามลูกะก็ได้ความว่าที่บ้าน
ลูกะก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหายไปไหน โอคาเบะจึงได้โทรไปถามเฟริส
เเต่เฟริสก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ที่ไหน กลับกัน
เธออยากจะรู้เรื่องไทม์เเมชชีนของพวกโอคาเบะมากกว่า




พวกโอคาเบะได้ออกมาหาเฟริสตามที่อยู่ที่เธอ
ให้ไว้ ในช่วงที่รอดาลุซื้อของระหว่างทาง
โอคาเบะก็เห็นมายูริมองเมทัลอูป้าเเละคิดว่าเเม้ในช่วงเวลานี้
เธอก็ยังคงอยากได้มันอยู่จริงๆ ไม่นานนัก โอคาเบะก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
เขาพบไชนิ่งฟิงเกอร์เดินผ่านไปในฝูงชนมากมาย
โอคาเบะจึงพยายามไล่ตามเธอไปเเม้ว่าจะเกือบโดนรถบรรทุกเสยก็ตาม
โอคาเบะได้มาพบโมเอกะกำลังบ่นพึมพำว่า "ทำไมล่ะ.. ทั้งที่FBบอกว่า มีอยู่ เเท้ๆ.."
เเต่ปรากฏว่าทั้งโอคาเบะเเละโมเอกะต่างก็ไม่รู้ว่า IBN5100 อยู่ีท่ไหน
เมื่อโมเอกะรุ้ว่าโอคาเบะไม่มีข้อมูลสิ่งที่เธอตามหาอยู่ เธอจึงเดินจากไป
เเต่พวกมายูริที่ตามมาเเละพูดเรื่องอยากให้โมเอกะลองคอสเพลย์ดูก็ทำให้โอคา
เบะสงสัยว่าพวกมายูริรู้จักโมเอกะด้วยงั้นเหรอ

มายูริบอกว่าโอคาเบะเป็นคนพาโมเอกะมาที่
เเล็ป เท่ากับว่าในช่วงที่โมเอกะทดลองส่งเมล์นั้น
อดีตได้เปลี่ยนให้ตัวตนของเธอหายไปจากความทรงจำของทุกคน เเต่ในเวลาต่อมา
เมื่อลูกะได้ทดลอง
อดีตก็ได้เปลี่ยนให้โมเอกะมามีตัวตนอยู่ในความทรงจำของทุกคนอีกครั้งนั่นเอง


ชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้ากลางย่านอากิบะนี้
คือที่อยู่ของเฟริส
ระหว่างที่รอเฟริสอยู่นั้นโอคาเบะก็ต่ืนตาตื่นใจกับวิวสูงเฉียดฟ้าเเละสนุก
สนานกับการจ้องมองผู้คนตัวกระจ้อยร่อย




ไม่นานนักเฟริสก็มา เเละความจริงก็เปิดเผยว่าครอบครัวของเฟริสเป็นเจ้าของ "อากิฮาบาร่า" เเห่งนี้ ซึ่งจะสอดคล้องกับชื่อจริงของเฟริสว่า "อากิฮะ รูมิโฮะ" ความจริงเเบบนี้ทำให้ดาลุรับไม่ได้จนต้องอุดหูตัวเองเลยทีเดียว


เฟริสได้ขอใช้D-เมล์ส่งข้อความไปในอดีต
โอคาเบะที่ถูกมายูริกับดาลุรุมกดดันจึงต้องยอมให้ใช้เผื่อว่าเเก้ไขอดีต
เเล้วอาจจะได้ความเรื่อง IBN5100 ก็ได้
เขาเลยเเต่งตั้งให้เฟริสเป็นสมาชิกเเล็ปหมายเลข007
เเต่จะส่งข้อความอะไรนั้น เฟริสก็เก็บไว้เป็นความลับไม่ยอมบอกเลย


โอคาเบะคิดจะส่งข้อความจากที่นี่
เขาเลยโทรไปบอกมากิเสะให้เตรียมตั้งเวลาไว้ให้ด้วย
เเต่นิสัยบ้าๆบอๆของโอคาเบะทำให้คุยกันไม่รุ้เร่องซะที
หลังจากโทรลูปไปมาอยู่หลายรอบ
โอคาเบะจึงต้องยอมพูดเเบบสงบเสงี่ยมเเละข้อร้องมากิเสะด้วยความสุภาพสุด
ชีวิต


ในที่สุดก็เตรียมการพร้อมจนได้ เฟริสได้กดส่งข้อความไปหลังจากที่เธอเตรียมใจพร้อมเเล้ว เเละเเล้วเวลาในอดีตก็ได้เปลี่ยนเเปลงอีกครั้ง


โอคาเบะรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยหลังการเปลี่ยน
เเปลงเวลาจบลง เขาพบพ่อของเฟริสอยู่ที่นี่
ดูเหมือนว่าพ่อของเฟริสกับโอคาเบะจะได้ตกลงคุยเรื่องอะไรบางอย่างกันไปเเล้ว
โดยที่โอคาเบะไม่รู้ เเต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด โอคาเบะพยายามถามหา
IBN5100 เเต่พ่อของเฟริสก็ไม่รู้เลยว่ามันอยู่ที่ไหน
เเละมันก็ไมไ่ด้อยู่ที่ศาลเจ้าด้วย

โอคาเบะได้เเต่ครุ่นคิดอยู่คนเดียวว่าเขาจะทำยังไงต่อไปดี เพราะช่วงเวลาได้เปลี่ยนเเปลงไปเเล้ว
เเต่ก็มีสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไป ความกังวลเหล่านั้นทำให้เขาเริ่มคิดหนักมากยิ่งขึ้น
"ถ้าหากว่า.. พวกเราทำในสิ่งที่ไม่อาจเเก้ไขได้เเล้วล่ะ"
เสียงอันสดใสของมายูริทำให้โอคาเบะรู้สึกตัว มายูริบอกว่าเธออยากไป นาคาโน่ เพื่อซื้อโดจินเล่มหนึ่งที่เธออยากอ่าน ถึงโอคาเบะจะไม่ได้ติดตามเรื่องพวกนี้นัก เเต่เขาก็รู้ว่าเเหล่งขายโดจินที่ใหญ่ที่สุดเเห่งหนึ่งอย่างร้าน "ถ้ำเสือ" นั้นอยู่ที่อากิบะนี้อยู่เเล้ว เพราะงั้นจะไปไกลถึงนาคาโน่ทำไม




ทว่า
ร้านถ้ำเสืออันใหญ่โตเเละเลื่องชื่อนั้นกลับหายไปกลายเป็นร้านขายเครื่อง
ปรับอากาศเเทน ไม่มีทางเป็นไปได้! โอคาเบะพยายามมองหาทุกซอกทุกมุม
เเต่เขาก็ไม่พบร้าน ถ้ำเสือ อยู่ที่ไหนเลย เพราะในตอนนี้
มันไม่ได้อยู่ที่นี่เเล้ว.. ซ้ำร้าย
บรรดาร้านเเละป้ายโฆษณาอนิเมทั้งหลายเเหล่ก็ได้หายไปจากอกิบะเเห่งนี้ด้วย
นี่คงเป็นครั้งเเรกที่ความเย็นอันเเผ่วเบาของพัดลมตัวเล็กๆที่เปิดอยู่หน้า
ร้านนั้นทำให้เกิดอาการวิตกกังวลได้มากขนาดนี้
เมื่ออกิบะไม่ได้เป็นเเหล่งศูนย์รวมอนิเมอีกต่อไป!
หรือว่านี่คือสิ่งที่เปลี่ยนเเปลงไป.. หรือเป็นสิ่งที่เฟริสขอ?
สภาพเเวดล้อมในการใช้ชีวิตอยู่ของพวกเขาได้เปลี่ยนไปเเล้ว ถ้างั้น..
วิธีเดียวที่จะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็คือ...........!!!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น