

นกฟีนิกซ์ถือกำเนิดขึ้นมาจากเถ้าถ่านของ
เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ ในตอนนี้โอคาเบะได้กลับมาผงาดง้ำค้ำโลกในชื่อ โฮวอิน
เคียวม่ะ อีกครั้ง
หลังจากนี้เขาจะทำการทำลายกฏเกณท์ของโลกด้วยความมั่นใจว่าจะไม่มีการผิดพลาด
อีกต่อไปแล้ว


ก่อนที่จะย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง
โอคาเบะได้มาหาของบางอย่าง นั่นก็คือสีปลอม
ซึ่งเเผนการที่โอคาเบะคิดก็คือเขาจะทำให้มากิเสะสลบเเละใช้สีนี้เเทนเลือด
เท่านี้อดีตที่ตัวเขาเห็นมากิเสะนอนจมกองเลือดก็จะไม่เปลี่ยนไป
เเต่พวกดาลุก็ยังเป็นห่วงว่าเเผนการนี้มันจะง่ายเกินไปรึเปล่า

มายูริได้ถามโอคาเบะเรื่องมากิเสะ
ถึงในเส้นทางโลกนี้มายูริจะไม่เคยเจอมากิเสะมาก่อน
เเต่เธอก็รู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยใช้ช่วงเวลาที่สนุกสนานกับมากิเสะที่เเล็ป
แห่งนี้ราวกับเป็นความฝัน โอคาเบะบอกว่านี่ไม่ใช่พลังของReading Steiner
เเต่เป็นความทรงจำบางอย่างที่รู้สึกได้ถึงใครบางคนที่อยู่ที่ไหนซักเเห่ง
เเละที่พวกเขามาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ได้ก็เพราะมากิเสะเป็นคนช่วยไว้
เมื่อมายูริรู้ว่ามากิเสะเป็นคนสำคัญของโอคาเบะ
เธอก็พยายามให้กำลังใจโอคาเบะให้ช่วยมากิเสะให้ได้


ส่วนดาลุก็ได้ถามสุซุฮะที่เป็นลูกของเขาใน
อนาคตว่าศรีภรรยาของเขาเป็นคนยังไง สุซุฮะก็บอกว่านั่นเป็นความับ
ส่วนโอคาเบะก็รู้สึกตลกเล็กน้อยที่ดาลุในโลกนี้ก็ยังคงสงสัยเรื่องนี้อยู่
หลังจากนั้นโอคาเบะกับสุซุฮะก็ได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้งเพื่อทำให้เรื่อง
ทุกอย่างจบลงอย่างเเท้จริง




อย่างเเรกที่ต้องทำเลยคือ เมทัลอูป้า
ในคราวก่อน
มายูริได้เมทัลอูป้าซึ่งเป็นตัวหายากมาจากการไขกาชาปองของโอคาเบะเอง
เเต่ต่อมามายูริก็ทำหายไป หลังจากนั้น
ศจ.นาคาบาจิได้เก็บมันไปเเละเดินทางไปรัซเซียพร้อมกับเอกสารเรื่องไทม์แมชชี
นของมากิเสะ ในตอนนั้นเองที่ได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้องโดยสาร
เเต่เพราะเครื่องตรวจวัตถุโลหะพบเมทัลอูป้าก่อน
ทำให้ศจ.นาคาบาจิได้เอกสารมาอย่างปลอดภัย
โอคาเบะที่ย้อนเวลากลับมาจึงต้องชิงไขกาชาปองเอาเมทัลอูป้าไปก่อน
ส่วนโอคาเบะในช่วงเวลานี้ก็จะได้อูป้าธรรมดาๆที่ไม่ใช่โลหะให้มายูริไป


ต่อมาโอคาเบะที่ย้อนเวลามาจะเจอมากิเสะโดย
บังเอิญ เขาได้ชนเอกสารของมากิเสะหล่นเเละบอกว่าเขาจะช่วยเธอเอง
เพื่อให้มากิเสะสนใจเขา จากนั้นโอคาเบะก็วิ่งหนีไปเตรียมเเผนการอื่นต่อ

เเต่ทว่าเหตุการณ์เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย
มายูริยังคงซุ่มซ่ามทำอูป้าหล่นหายอยู่
เเต่คนที่เก็บได้กลับเป็นมากิเสะเเทน เเต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสสรคเท่าไหร่


เพราะอุปสรรคที่เเท้จริงคือสีลิขวิดที่เขา
เตรียมไว้มันแห้งสนิทจนแข็งโป๊กไปแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถทำเป็นเลือดปลอมได้
เเต่ในตอนนี้เขาได้ซ่อนตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ
เเถมมากิเสะก็กำลังจะคุยกับศจ.นาคาบาจิผู้เป็นพ่อของเธอเเล้ว
ทำให้โอคาเบะไม่มีเวลาไปหาสีที่อื่นอีก
เขาจึงต้องรีบคิดหาทางออกให้เร็วที่สุด

และเเล้ว
ในระหว่างที่ศจ.นาคาบาจิกำลังทำร้ายลูกสาวของเขาอีกครั้ง
โอคาเบะก็ได้ปรากฏตัวออกมาเพื่อดึงดูดความสนใจ
ในคราวนี้เขาไม่ได้พุ่งเข้าไปขวาง ศจ.
แต่เขากลับออกมาพูดพร้อมกับท่าทางสุดสะเด่าทรวงให้เกิดความรำคาญแทนมากกว่า




"ชื่อของชั้นคือ โฮวอิน เคียวม่ะ!!"


ศจ.นาคาบาจิเห็นไอ้บ้าที่เข้ามาขัดขวางเลย
หยิบมีดออกมาคิดจะเก็บบัญชีโอคาเบะไปด้วย เเต่โอคาเบะกลับไม่หนีเเละยั่วยุ
ศจ. ที่อยู่ในความหวาดกลัวให้โมโหขึ้นเรื่อยๆ
เเละคิดว่าคนที่ถือมีดจนกลัวตัวสั่นแบบนี้จะไม่มีทางฆ่าเขาได้เเน่นอน




เเต่ศจ.ที่เดือดดาลก็ได้ใช้ความโกรธเกรี้
ยวเเละความกลัวแทงมีดใส่ท้องโอคาเบะเข้าอย่างจัง
เขาผละตัวออกมาพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากตัวโอคาเบะไม่หยุด
มากิเสะเองก็ตกใจเป็นอย่างมากที่พ่อของเธอทำแบบนี้

ส่วนโอคาเบะก็พยายามประคองสติไว้เเละดึงมีด
ออกมาจากท้องเเละเอาไปขู่ศจ.
ศจ.นาคาบาจิที่อยู่ในความหวาดกลัวถึงขีดสุดก็ได้วิ่งหนีไปพร้อมเอกสารเรื่อง
ไทม์แมชชีน
มากิเสะที่เห็นชายตรงหน้าถูกแทงก็พยายามจะโทรเรียกรถพยาบาลให้แม้ว่าเธอจะ
ตกใจมากก็ตาม เเต่โอคาเบะก็คิดว่าไม่จำเป็น


"บอกแล้วไงล่ะ ว่าชั้นจะช่วยเธอ"

โอคาเบะได้หยิบที่ช็อตไฟฟ้าออกมาเเละช็อตใส่มากิเสะเพื่อให้เธอสลบ


จากนั้นโอคาเบะที่รวยรินก็กลั้นใจตัวเองใช้มือของเขาแทงซ้ำเข้าไปที่รอยแผลของเขา
จากนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังก้องไปทั่วตึกพร้อมกับเลือดมากมายที่ไหลรินออกมา


องค์ประกอบทุกอย่างครบแล้ว
มากิเสะที่สลบได้นอนจมกองเลือดเรียบร้อย
หลังจากนี้ตัวเขาในช่วงเวลานี้ที่ได้ยินเสียงกรีดร้องก็จะมาที่นี่
ส่วนตัวเขาที่ใกล้จะสิ้นลมก็ได้สุซุฮะมาช่วยไว้
เท่านี้เรื่องทุกอย่างก็จบลงโดยที่อดีตไม่ถูกเปลี่ยนแปลงแล้ว

"ลาก่อนนะ"


เเต่ก่อนที่จะกลับไป
โอคาเบะได้ขอเวลาสุซุฮะซักเดี๋ยว
เขาได้เฝ้าดูตัวเขาในช่วงเวลานี้ที่มายังที่เกิดเหตุอยู่ห่างๆ
และคอยเป็นกำลังใจให้เตรียมตัวเผชิญกับเรื่องราวหลังจากนี้
เพราะมันจะเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตัวเขาเอง

"พยายามเข้าล่ะ หลังจากนี้จะเริ่มต้นช่วงเวลาที่ยาวนานแล้ว
เเต่ก็เป็นสามสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดเลยล่ะ"

และแล้วโอคาเบะก็ได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไป
กับสุซุฮะ
ถึงเขาจะเจ็บปางตายเเต่เขาก็รู้สึกว่าแสงจากการย้อนเวลานั้นสว่างขึ้น
มากกว่าเดิมจนราวกับสุซุฮะที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขากำลังจะหายไป
สุซุฮะบอกว่าหลังจากนี้จะไม่มีใครที่รู้เรื่องเส้นทางโลกSteins Gateอีกแล้ว
สงครามโลกครั้งที่สามก็จะไม่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน
เรื่องที่เธออยู่ที่นี่ในเวลานี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
เธอจึงขอบคุณโอคาเบะอีกครั้งที่ช่วยอนาคตของเธอไว้
เเละหวังว่าเขาและเธอในอนาคตจะได้พบกันอีก

"ขอบคุณนะ ไว้เจอกันใหม่ในอีกเจ็ดปีข้างหน้านะ"
และแล้ว เรื่องราวทุกอย่างก็ได้จบลง


เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปอย่างช้าๆ
มายูริได้มาเยี่ยมโอคาเบะที่โรงพยาบาล เเต่เธอก็พบว่าโอคาเบะไม่อยู่แล้ว
เธอจึงได้ออกตามหาว่าโอคาเบะหายไปไหน


ในขณะเดียวกัน ข่าวก็ได้พูดถึงเรื่องของ
ศจ.นาคาบาจิที่โวยวายเรื่องเอกสารเรื่องไทม์แมชชีนที่ถูกเพลิงไหม้หายไปหมด
ทำให้เขาไม่มีผลงานเเละกลับมาตกต่ำลงอีกครั้ง


มายูริได้มาหาลูกะที่ศาลเจ้าเพื่อถามหาโอคาเบะ เเต่ก็ได้ความว่าโอคาเบะกลับไปแล้ว เเต่ก่อนกลับไป
โอคาเบะได้ให้เข็มกลัดบางอย่างที่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์กลุ่มกับลูกะด้วย
"นั่นคือเครื่องหมายยืนยันสมาชิกแล็ปหมายเลข006
บางทีความทรงจำนั้นอาจจะหลงเหลืออยู่ในช่วงชีวิตอื่นก็ได้นะ"


ต่อมามายูริก็ไปหาเฟริสที่ร้านเมย์ควีนเเละพบว่าโอคาเบะได้ให้ตราสัญลักษณ์กับเฟริสเหมือนกัน
"เครื่องหมายของสมาชิกแล็ปหมายเลข007
ถ้าอยากให้ช่วยเมื่อไหร่ก็ถือมันเอาไว้แล้วพูดว่า ลา โยดะ สตาเซลล่า นะ"




โอคาเบะได้ให้เข็มกลัดบางอย่างที่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์กลุ่มกับลูกะด้วย
"นั่นคือเครื่องหมายยืนยันสมาชิกแล็ปหมายเลข006
บางทีความทรงจำนั้นอาจจะหลงเหลืออยู่ในช่วงชีวิตอื่นก็ได้นะ"


ต่อมามายูริก็ไปหาเฟริสที่ร้านเมย์ควีนเเละพบว่าโอคาเบะได้ให้ตราสัญลักษณ์กับเฟริสเหมือนกัน
"เครื่องหมายของสมาชิกแล็ปหมายเลข007
ถ้าอยากให้ช่วยเมื่อไหร่ก็ถือมันเอาไว้แล้วพูดว่า ลา โยดะ สตาเซลล่า นะ"




สุดท้ายมายูริก็ได้กลับมาที่แล็ป
แต่เธอก็ได้ทักทายมิสเตอร์เบราน์กับนาเอะก่อนที่จะขึ้นไปที่แล็ป
เเละวันนี้เธอก็ได้พบว่ามีพนักงานคนใหม่ที่ร้านซ่อมทีวีของมิสเตอร์เบราน์มา
ทำงานด้วย สาวแว่นร่างสูงหุ่นดีคนดังกล่าวก็ได้แนะนำตัวว่าชื่อ คิริว
โมเอกะ มายูริก็ได้ไปทำความรู้จักอย่างสนิทสนม
ซึ่งก่อนนี้โอคาเบะก็ได้มาให้เข็มกลัดกับโมเอกะเหมือนกัน
เเละบอกว่าโมเอกะจะมาเป็นสมาชิกเมื่อไหร่ก็ได้
โมเอกะก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่างเเละบอกขอบคุณโอคาเบะ

ซึ่งโอคาเบะก็ได้หันกลับมายิ้มให้เช่นกัน


มายูริกลับเข้ามาที่เเล็ปเเละพบว่าดาลุอยู่คนเดียว ส่วนโอคาเบะนั้นออกไปซื้อของ
มายูริพบว่ามีเข็มกลัดของเธอกับดาลุที่เป็นสมาชิกหมายเลข002กับ003อยู่เหมือนกัน

มายูริพอจะเดาออกเเล้วว่าตัวอักษรที่อยู่ใน
เข็มกลัดนั้นมาจากชื่อของเเต่ละคน
เเต่บางตัวอักษรเธอก็ไม่เข้าใจว่าเป็นชื่อของใคร
ดาลุก็บอกว่าก่อนหน้านี้โอคาเบะบอกว่า1ในนั้นมีเข็มกลัดที่โอคาเบะเก็บไว้
อย่างดีเเละบอกว่าเป็นสมาชิกหมายเลข008ที่พวกเขาจะได้เจอกันอีกทีในอีก7ปี
ข้างหน้า


มายูริกับดาลุจึงเฝ้ารอคอยสมาชิกอีกคนอย่างใจจดใจจ่อ เเม้จะนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นคนยังไง
เเต่มายูริก็คิดว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี สมาชิกแล็ปทุกคนก็ไม่เปลี่ยนไปเเน่นอน


อากิฮาบาร่าได้กลับมาเป็นเเหล่งชุชมชนคน
พลุกพล่านเหมือนปกติ
หรือต้องเรียกได้ว่าโลกไม่มีเหตุการณ์อะไรให้ต้้องเป็นกังวลอีกแล้ว
โอคาเบะได้เดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่ใช้ช่วงเวลาเหมือนปกติในช่วงเวลานี้เเละ
นึกถึงใครบางคน

ถึงตอนนี้เขาจะไม่เจอเธอ เเต่โอคาเบะก็ยังจำได้ดี เเม้จะเป็นเพียงช่วงสามสัปดาห์ก็ตาม
สิ่งที่เขาเเละเธอพยายามกันมาตลอดเเละความรุ้สึกที่มีให้กันจะไม่จางหายไป

แต่แล้วโอคาเบะก็ได้เดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เขาอยากเจอมาตลอด
และเธอเองก็อยากเจอเขาเช่นกัน ในที่สุด โอคาเบะกับมากิเสะก็ได้เจอกันอีกครั้ง


ทั้งคู่ได้หยุดพูดคุยกันท่ามกลางฝูงชนที่เดินพลุกพล่านไปมา
"ในที่สุดก็หาจนพบ.. ฉันตามหาคุณมาตลอดเลย
ฉันอยากขอบคุณที่ช่วยฉันไว้"
มากิเสะรุ้สึกขอบคุณโอคาเบะที่ช่วยเธอไว้
ส่วนโอคาเบะก็ได้หยิบโทรศัพท์มาคุยกับตัวเองเเละหยอกล้อกับมากิเสะเหมือนทุกที


"นี่ชั้นเอง ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ล่ะ อะไรนะ เพราะชั้นช่วยเธอไว้งั้นเหรอ
ไม่ไหวๆ อย่าชมกันขนาดนั้นสิ เอาเถอะ ถ้านั่นเป็นตัวเลือกล่ะก็นะ El Psy Congroo"
"El Psy?"
"ได้เจอกันอีกเเล้วนะ คริสติน่า!"
"ก็บอกเเล้วไงว่าฉันไม่ได้ชื่อคริสติน่า หรือขี้ข้า เอ๊ะ...?"
มากิเสะที่ตอบรับการหยอกล้อของโอคาเบะไปโดยอัตโนมัติก็รุ้สึกเเปลกใจว่าทำไมเธอถึงตอบกลับไปแบบนั้น
เเต่ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องรู้ เพราะสิ่งที่โอคาเบะทำก็เพื่อที่จะได้พบเธออีกครั้ง
เขาได้มอบเข็มกลัดแสดงตัวตนของสมาชิกเเล็ปให้ มากิเสะเองก็รับไว้ด้วยความยินดี
จากนี้พวกเขาทุกคนจะใช้เวลาอย่างมีความสุขด้วยกันตลอดไป


"ยินดีต้อนรับ ขี้ข้าของชั้น มากิเสะ คุริสุ ไม่สิ คริสติน่า"

"เรื่องในอนาคตน่ะ ไม่มีใครรู้ได้หรอก"


"เเต่การพบกันคราวนี้จะเป็นการพิสูจน์ความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุด"

นี่แหละ ตัวเลือกของ Steins Gate ล่ะ

-จบ-
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น