[Spoil] THE IDOLM@STER - Ami (1)

- Futami Ami(1) -
เรื่องราวของ อามิ ผู้เป็นน้องสาว
กับการเติบโตสู่ความเป็นผู้ใหญ่ของสองแฝดจอมซน




วันนี้ 765โปร ก็ยังคงใช้เวลาว่างร่วมกันอย่างสงบสุข
หากแต่ไม่ใช่โปรดิวเซอร์ ที่กำลังทรมานจากการโดนสองแฝดจอมซน อามิ มามิ
รุมด้วยท่ามวยปล้ำ โดยมีมิกิและยูกิโฮะเป็นกองเชียร์อยู่(?)
มิกิที่เห็นสองแฝดกำลังเล่นกับโปรดิวเซอร์อย่างสนุกสนาน ก็เกิดอาการอยากเล่นด้วย
แต่โชคยังดีที่ริทสึโกะมาห้ามไว้ทัน ก่อนที่โปรดิวเซอร์จะซวย(และโดนเซอร์วิส)ไปมากกว่านี้


มีหรือที่สองแฝดโดนห้ามแล้วจะอยู่เฉย 
เมื่อโดนริทสึโกะต่อว่าว่าให้ทำตัวดีๆ เพราะทั้งสองคน "ไม่ใช่เด็กๆแล้ว"
สองแฝดจึงได้แกล้งว่าริทสึโกะมองพวกเธอเป็นแบบนั้นเองเหรอ
ทำให้ริทสึโกะกลายเป็นฝ่ายติดกับและวิ่งไล่ว่าพวกอามิยกใหญ่
ซึ่งโปรดิวเซอร์กับคุณโคโทริก็รู้สึกว่าพอ อามิกับมามิ อยู่ด้วยกันทีไร ก็มักจะจับคู่กันได้ดีเสมอ


ในวันต่อมา ทั้งสองคนได้มาโรงเรียนตามปกติ
อามินึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอเป็นเวรทำความสะอาด เธอจึงขอตัวไปที่ห้องเรียนก่อน
แต่ก่อนไป อามิก็ตาไวเห็นลูกฟุตบอลที่พุ่งเข้ามา อามิจึงรีบบอกให้มามิหลบได้ทัน


หนุ่มนักบอลที่มาเก็บบอล เมื่อเห็นสองแฝดก็เหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเอง
แล้วก็คิดไม่ผิดจริงๆ อามิรีบต่อว่าหนุ่มนักบอลและบอกให้ขอโทษมามิทันที
แต่แม้จะขอโทษไปแล้ว อามิก็ยังต่อว่าไม่เลิกว่าถ้าพวกเธอที่เป็นไอดอลบาดเจ็บจะทำยังไง


มามิได้เข้ามาห้ามอามิ เพราะเธอไม่คิดมากอะไร และไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย
และที่มามิหลบบอลได้ก็เป็นเพราะอามิช่วยบอกเหมือนกัน
เมื่อทำให้อามิสงบลงได้แล้ว มามิก็ได้ไปเตะลูกฟุตบอลส่งกลับไปให้หนุ่มนักบอลด้วย


" แฮนด์! สินะ"


" ระวังด้วยนะ "


หลังจบเรื่องกับหนุ่มนักบอลแล้ว มามิก็ได้ถามถึงเรื่องเวรทำความสะอาด
ทำให้อามินึกออกว่าเธอมัวแต่ต่อว่าหนุ่มนักบอลจนลืมไปซะสนิทเลย


อามิรีบมาทำเวรและเอาขยะมาทิ้ง ซึ่งในระหว่างที่จะกลับไปที่ห้อง
อามิก็บังเอิญเจอหนุ่มนักบอลกับเพื่อนๆของเขากำลังคุยเรื่องของพวกเธออยู่
ดูเหมือนหนุ่มนักบอลจะเรียนอยู่ที่เดียวกับสองแฝดมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว
ซึ่งในตอนนั้นหนุ่มนักบอลก็รู้สึกว่าทั้งสองคนเหมือนเด็กๆมากกว่าจะมีความเป็นไอดอลซะอีก


เพื่อนของหนุ่มนักบอลคนหนึ่งได้บอกว่า มามิ ที่เป็นพี่สาว
ดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า หนุ่มนักบอลจึงบอกว่าเป็นแฝดกันก็น่าจะเหมือนกันสิ
แต่เพื่อนคนนั้นก็ยังคงแย้งว่าทั้งสองแฝดนั้นมีบรรยากาศแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ทำให้หนุ่มนักบอลเหมือนจะรู้สึกได้จากเหตุการณ์เมื่อกี้ 
และจากการได้ยินการพูดคุยกันในครั้งนี้ ก็ทำให้อามิครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่คนเดียว


ในวันต่อมา เมื่ออามิมาที่สำนักงาน เธอก็ได้รบเร้าถามโปรดิวเซอร์ทันที
ซึ่งอามิอยากรู้ว่าเธอหรือมามิที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าในสายตาของผู้ชายอย่างโปรดิวเซอร์
(คุณโคโทริที่นั่งฟังอยู่ห่างๆ เมื่อได้ยินคำถามแล้วก็ถึงกับน้ำพุ่งเลยทีเดียว)


อันที่จริง อามิได้ลองถามริทสึโกะในตอนที่ไปทำงานเมื่อวานนี้แล้ว
แต่กลายเป็นว่าเธอรบเร้ามากเกินไป ทำให้ริทสึโกะโมโหและตวาดกลับว่าเป็นเด็กทั้งคู่


คุณโคโทริที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ได้เข้าใจสิ่งที่อามิต้องการหมดแล้ว
คุณโคโทริรู้สึกว่าเด็กวัยอย่างอามิ ถึงวัยที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่อามิที่เห็นคุณโคโทริเพ้ออยู่คนเดียว ก็ได้บอกว่าท่าทางคุณโคโทริจะผ่านความทรงจำในช่วงเวลานั้นมานานน่าดู


กลับเข้าเรื่อง โปรดิวเซอร์ได้บอกว่า มามิก็คือมามิ อามิก็คืออามิ
ทั้งสองคนก็มีความแตกต่างกัน เขาจึงไม่สามารถตอบได้ชัดเจนหรอก
แต่โปรดิวเซอร์ก็ได้ยกตัวอย่างว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดอย่างคุณอาซึสะ
ก็มีส่วนที่ดูเหมือนกับเด็กเหมือนกัน หรือในตอนที่ทุกคนกำลังวิตกกังวล
อามิกับมามิก็มักจะมีรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจได้เสมอ
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้โปรดิวเซอร์รู้สึกว่าทั้งสองคนมีส่วนที่เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งกว่าใครๆอยู่
แต่ถ้าให้เทียบกันแล้ว ในตอนที่อามิเดบิวต์กับริวกูโคมาจิไปก่อนหน้านี้
โปรดิวเซอร์ก็รู้สึกว่าอามิดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิดหน่อยแล้วเหมือนกัน



แต่ถึงอย่างนั้น อามิที่สนใจอยากรู้ว่าใครเป็นผู้ใหญ่มากกว่ากัน
ก็ทำให้โปรดิวเซอร์รู้สึกว่าอามิก็ยังมีส่วนที่เหมือนเด็กๆอยู่
ทำให้โปรดิวเซอร์ไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ใหญ่มากกว่ากัน
แต่อามิก็ไม่ได้ว่าอะไร และดูเหมือนเธอจะเข้าใจที่โปรดิวเซอร์บอกแล้ว


" คิดถูกจริงๆที่มาปรึกษากับพี่ชาย "



ตกดึก เมื่อทุกคนได้กลับไปกันหมดแล้ว
พวกโปรดิวเซอร์ก็ได้เล่าเรื่องอามิให้ริทสึโกะฟัง
ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าช่วงนี้ทั้งสองคนต่างยุ่งกับงานของตัวเอง เลยไม่ได้ทำงานร่วมกันเลย
โปรดิวเซอร์จึงคิดว่ายังมีเวทีนึงที่ยังไม่ได้กำหนดงานอยู่
เขาจึงลองเสนอให้สองคนนี้ทำด้วยกัน ซึ่งริทสึโกะก็เห็นด้วย
เวทีที่โปรดิวเซอร์พูดถึงจะเป็นยังไงกันแน่?


-----------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น