
-Chapter 09-



ทางด้านยานลินด์บลัม พวกซิดเเละพวกไลท์นิ่ง
ได้พบข่าวการจับตัวลูชิไปยังยานพาราเมเกีย
ซึ่งเป็นยานเเม่ของพวกรัฐบาลที่มีกาเรนธ์ ไดส์รี่อยู่ด้วย
พวกไลท์นิ่งจึงคิดจะบุกไปช่วยพรรคพวกเเละจัดการกาเรนธ์

ก่อนจะขึ้นยาน โฮปก็บอกว่าเเม้เขาจะกลัว เเต่เขาก็ไม่ได้อยู่คนเดียว
เพราะงั้นเค้าเชื่อว่าทุกคนจะต้องทำได้ และในที่สุดด้วยการมาส่งของพวกริกดี้
ทำให้พวกไลท์นิ่งบุกเข้ามาในยานพาราเมเกียได้สำเร็จอย่างง่ายดาย
ทางด้านวานิลาที่อยู่ในห้องคุมขังนั้น เธอก็ได้คุยกับคนคนหนึ่ง


ย้อนกลับไปในตอนที่ซัสท์คิดจะฆ่าตัวตายนั้น
เเม้เขาจะลั่นไกปืนออกไป เเต่เขาก็ยิงใส่ตัวเองไม่ลง
เเละซัสท์ก็ทรุดลงไปโอดครวญว่าทำไมตัวเขาถึงทำไม่ได้
หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกพวกนาบาทจับตัวเเละทำให้สลบไป


กลับมาที่เวลาปัจจุบันซัสท์ก็บอกว่าเขาไม่คิดโกรธเคืองอะไรอีกเเล้ว
เเละเขาเองก็จะพยายามต่อไป วานิลาก็ได้เล่าถึงวันที่เธอได้ลืมตาตื่นขึ้นมา

-วันที่1 ภายในซากโบราณสถานที่โบดัม-




วานิลาที่เป็นคริสตัลนั้นได้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลอันยาวนานอีกครั้ง
เธอได้พบฟางที่ล้มลงนอนอยู่ข้างๆและนอกจากจะพบว่าพวกเธอมาอยู่ที่โคคูนเเล้ว
ฟางเองก็จำเรื่องราวในอดีตก่อนจะหลับไปไม่ได้เลยเหมือนกัน
เเต่รอยสักลูชิของฟางนั้น คือรอยสักของผู้ทรยศในหน้าที่ที่ได้รับมา..




จากนั้นในระหว่างที่ในยานกำลังเกิดความวุ่นวายจากการที่พวกไลท์นิ่งบุกมา
ซัสท์เเละวานิลาก็ได้อาศัยโอกาสจัดการผู้คุมเเละชิงอาวุธคืนมา
เเต่วานิลาก็เกิดรุ้สึกกังวล ซัสท์เลยบอกว่าถ้างั้นก็ลองตายดีมั้ย
เเต่เเบบนั้นมันก็น่ากลัวกว่า เขาเองก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน
เเล้วถ้าดอจน์ไม่ได้พบเค้าอีกก็คงไม่ดีเเน่ๆ

ภายในยานตอนนี้นั้นเริ่มมีการประกาศการเตือนภัยที่หนักขึ้นเรื่อย
จากการบุกของพวกไลท์นิ่งเเละพวกซัสท์ ทำให้นาบาทนั้นเดือดดาลมากขึ้นเรื่อยๆ
เเต่กาเเรนธ์ก็ได้สั่งประกาศให้เป็นความอันตรายระดับสีขาว



ทางด้านพวกไลท์นิ่งได้ออกมาบริเวณปีกของยาน เเละได้พบกับพวกซัสท์
ที่บังเอิญพังกำเเพงออกมาทางนี้เช่นกัน เมื่อฟางเห็นวานิลาเเล้ว
ทั้งคู่ก็ต่างโผเข้ากอดกันทันที



ฟางได้ดูรอยสักของวานิลาเเละโล่งอกที่ยังไม่เป็นอะไรมาก
พวกสโนว์ก็ได้บอกกับซัสท์ว่าพวกเขาจะถล่มรัฐบาล
เพื่อให้ผู้คนรอดพ้นจากการปกครองของฟัลชิ



เมื่อตัดสินใจที่จะลุยเเล้ว พวกไลท์นิ่งก็ได้พบมอนสเตอร์ของถูกรัฐบาลบินผ่านมาพอดี
ฟางกับวานิลาจึงร่วมมือกันใช้ความสามารถนักล่าจากแกรนพัลส์ของตัวเองจับมันมาได้




เมื่อทุกคนขึ้นไปนั่งเเล้ว ฟางก็ได้ควบคุมมอนสเตอร์นกนี้
บินหลบกระสุนจากกองยานเเละยิงสายฟ้าโจมตีใส่ยาน
เพื่อเปิดทางเข้าไปสู่ห้องบังคับการที่มีกาเรนธ์อยู่



พวกไลท์นิ่งได้บุกเข้ามาถึงห้องบังคับการที่มีนาบาทกับกาเรนธ์อยู่
เเต่กาเรนธ์คิดว่าหน้าที่ของมนุษย์นั้นได้จบลงเเล้ว
เเละเขาก็ได้ใช้พลังเวทย์ของเขาโจมตีใส่นาบาทเเละลูกเรือในห้องบังคับการ

เเละกาเรนธ์ก็ได้พูดดูถูกมนุษย์ เเต่ไลท์นิ่งไม่หวั่นไหวใดๆเเละบอกว่า
ที่กาเรนธ์ทำเเบบนี้ก็เเสดงว่าเขาเป็นลูชิด้วยเหมือนกัน


กาเรนธ์ได้ยินเช่นนั้นก็ขบขันเเละเผยร่างที่เเท้จริง
และบอกว่าเขาเป็นราชันย์แห่งฟัลชิผู้ปกครองเเละชี้นำโคคูน
แบทเทิลอันเดลส์ และพวกไลท์นิ่งก็ต้องต่อกรด้วยทันที


แม้จะชนะเเล้ว เเต่กาเรนธ์ก็ยังไม่หายไปง่ายๆ
ซ้ำยังบอกถึงคำใบ้ที่พวกไลท์นิ่งเคยได้รับมา
นั่นก็คือ เเร็คนาร็อค เมื่อฟางได้ยินชื่อนั้นเเล้วทำให้
เธอรู้สึกเจ็บที่รอยสักของเธอทันที เเม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร


เเละกาเรนธ์ก็บอกว่าหน้าที่ของพวกไลท์นิ่งคือการทำให้เกิดเเร็คนาร็อคขึ้นมาอีกครั้ง
เเละทำลายโคคูนตามประสงค์ของ ฟัลชิ โอเฟ่น
โดยที่มีมีต้นกำเนิดเเห่งพลังอยู่ที่ศูนย์กลางของโคคูนอย่าง ฟัลชิเอเดน

ฟางเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกับคำว่าเเร็คนาร็อกเเละโอเฟ่น
กาเรนธ์เลยคิดว่าฟางนั้นลืมภารกิจของเธอไปเเล้ว
เเต่เเน่นอนว่าสโนว์ไม่ยอมเชื่อที่กาเรนธ์พูดเเละบอกว่า
เซร่าห์บอกให้พวกเขาปกป้องโคคูน ทำให้เธอต้องกลายเป็นคริสตัล
เพราะงั้นพวกเขาจะทำตามที่พวกเขาต้องการเเม้จะเป็นคริสตัลไปก็ตาม


กาเรนธ์จึงขบขันอีกครั้งเเละบอกว่าถ้าพวกสโนว์เชื่อที่สาวน้อยพูด
อย่างงั้นเเล้วหน้าที่ของสาวน้อยคนนั้นก็คือการรวบรวม
คนอย่างพวกสโนว์มาทำลายโคคูนนั่นเอง


ระหว่างที่พวกสโนว์กำลังสับสนเพราะไม่รู้ว่ากาเรนธ์นั้นพูดจริงรึไม่
ตัวยานพาราเมเกียเองก็ได้เกิดสั่นไหวเเละระเบิดขึ้น กาเรนธ์จึงให้นกของเขา
กลายเป็นยานให้พวกไลท์นิ่งหลบหนี ส่วนตัวเขาก็หายไป

"จงมีชีวิตอยู่เพื่อมองดูความเป็นจริงซะเถอะ!"


พวกไลท์นิ่งขับยานหนีออมา เเต่ซัสท์รุ้สึกว่ายานจะบังคับไม่ได้ดั่งใจ
ระหว่างที่วุ่นวายอยู่นั้นโฮปก็เห็นอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขา



"มีอะไรกำลังมา?"
"หนีไม่พ้นหรอก ลูชิ!"



รอชได้กลับมาอีกครั้งพร้อมขับยานไล่ล่าของเขามา
ทำให้เกิดการต่อสู้เเละโชว์หลบกระสุนอย่างดุเดือน
จนสุดท้ายยานของพวกไลท์นิ่งก็ได้หนีเข้าไปยังเอเดน
ส่วนรอชตามเข้ามาไม่ได้เพราะถูกบาเรียของเอเดนป้องกันไว้
ดูเหมือนกาเรนธ์จะทำให้ยานของพวกไลท์นิ่งผ่านเข้ามาที่นี่ได้

เเต่ระหว่างที่กำลังโล่งใจจนไม่ได้มองทาง ยานของพวกไลท์นิ่ง
ก็ได้พุ่งเข้าชนกับอาคารหลังหนึ่งเข้าอย่างจัง
-Continue Chapter 10-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น