



ถ้าหากคนที่ถูกฆ่าตายเมื่อเช้าได้มายืนอยู่
ตรงหน้าคุณจะทำยังไง?
สิ่งที่โอคาเบะคิดออกนอกจากการตกใจคือการพยายามเเตะต้องตัวเธอเเละดูรอยที่
ถูกเเทงเพื่อพิสูจน์ว่า มากิเสะ คุริสุ
ที่อยู่ตรงหน้าเค้าในตอนนี้คือคนจริงๆหรือเป็นผีมาหลอกหลอนเขากันเเน่
เเต่ดาลุก็เข้ามาห้ามโอคาเบะที่กำลังโวยวายเอาไว้ก่อนที่มากิเสะจะเรียก
ตำรวจมาจับโอคาเบะที่พุ่งเข้ามาทำอะไรเเปลกๆกับตัวเธอ เเต่ไม่นานนัก
มากิเสะก็ถูกเรียกตัวให้ไปเตรียมตัวเเถลงข่าวในวันนี้
โอคาเบะเลยเเนะนำตัวในตอนที่ยังมีโอกาสว่าเขาชื่อ โฮวอิน เคียวม่ะ


ห้องเเถลงข่าวที่นี่ดูเหมือนจะให้บรรยากาศ
ที่ดีกว่าห้องอับๆที่โอคาเบะไปมาเมื่อเช้า
เเต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับมากิเสะที่กำลังพูดเรื่องความเป็นไปได้ของการย้อน
เวลาด้วยไทม์เเมชชีนนั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระอย่างมาก


เเน่นอนว่าโอคาเบะที่ชื่นชอบเรื่องการย้อน
เวลาอยู่เเล้วจะลุกขึ้นคัดค้าน
เเต่มากิเสะเองก็ยินดีที่จะตอบข้อสงสัยด้วยทฤษฐีของเธอว่าทำไมการย้อนเวลา
มันถึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้


เเละโอคาเบะก็ต้องชีช้ำเดินคอตกท่ามกลาง
เเดดยามเย็นที่ร้อนระอุพร้อมกับความเจ็บใจที่ถูกอัจฉริยะสาวโต้เเย้งกลับได้
ทุกทฤษฐี เเต่ก่อนที่ความร้อนจะทำให้เป็นคนบ้าเหมือนโอคาเบะ
ดาลุจึงขอตัวลี้ภัยไปร้านเมดคาเฟ่ที่เขาชื่นชอบก่อน
ส่วนโอคาเบะก็ถูกเมล์จากมายูริเรียกให้ไปหา

โอคาเบะได้มาที่ศาลเจ้าตามที่ถูกตามตัว เเละพบว่ามายูริกำลังอยู่กับ "อุลุชิบาระ ลูกะ"
มิโกะของศาลเจ้านี้ที่กำลังฝึกฟาดดาบเล่มเล็กๆด้วยท่าทางอ่อนเเอเหมือนคน
เป็นโรค เเถมเด็กคนนี้ยังเป็นเด็กดีมากๆ
เพราะเขาเชื่อฟังโอคาเบะอย่างว่านอนสอนง่ายโดยดูได้จากการที่เขาเรียกโอคา
เบะว่า เคียวม่ะ เเละ
การที่เขาพยายามพูดรหัสลับที่ออกเสียงยากๆในการส่งข้อความของโอคาเบะ
เเต่โอคาเบะก็อยากให้ลูกะที่พยายามฝึกฝนอยู่ทุกวันได้มั่นใจในตัวเองมากกว่า
นี้หน่อย เขาเลยเเกล้งทำเป็นถูกผีเข้า
เเละขอให้ลูกะที่กำลังลนลานไปเอาไม้ไล่ผีมาช่วยปัดเป่าวิญญาณให้เขาหน่อย
ในระหว่างที่คนทรงกำลังไปหาไม้ขับไล่วิญญาณเเละวิ่งมาด้วยความรีบร้อนเหมือน
จะเป็นจะตายด้วยความอ้อนเเอ้นอยู่นั้น
โอคาเบะก็ได้เเต่ปลงตกกับตัวเองถึงความจริงของลูกะ

"อุรุชิบาระ ลูกะ.. ถึงน้ำเสียงจะดูเหมือนผู้หญิง ไม่สิ ถึงจะเป็นเด็กสาวที่งดงามมากก็เถอะ เเต่มันก็เป็นผู้ชาย!!
มีความสูงมากกว่ามายูริ เเต่กลับมีร่างกายอ่อนเเอ.. เเต่มันก็เป็นผู้ชาย!!
เเละถึงจะใส่ชุดมิโกะอยู่ก็ตาม.. เเต่มันก็เป็นผู้ชาย!!! "
มีความสูงมากกว่ามายูริ เเต่กลับมีร่างกายอ่อนเเอ.. เเต่มันก็เป็นผู้ชาย!!
เเละถึงจะใส่ชุดมิโกะอยู่ก็ตาม.. เเต่มันก็เป็นผู้ชาย!!! "

สาเหตุที่มายูริเรียกโอคาเบะให้มาหาก็คือ
ให้เขาช่วยยกข้าวโพดกลับไปด้วยกัน
เพราะพ่อของลูกะให้มามากมายจนสาวน้อยตัวเล็กๆอย่างมายูริไม่อาจจะยกข้าวโพด
ที่มีเต็มถุงถึง 3ถุงไหว เเต่ในระหว่างกับไปที่เเล็ป
พวกโอคาเบะก็พบว่าเขาไม่สามารถใช้เส้นทางตามปกติได้
เพราะเส้นทางได้ถูกปิดเอาไว้เพราะเหตุการณ์ดาวเทียมตก
โอคาเบะจึงอาสายกถุงข้าวโพดเดินกลับไปเอง
เพราะอีกเดี๋ยวมายูริก็จะได้เวลาทำงานพิเศษเเล้ว เเต่เพื่อความเเน่ใจ
ก่อนจากกันโอคาเบะจึงถามมายูริว่าเมื่อเช้าเธอได้ยินเสียงคนกรีดร้องรึเปล่า
เเต่คำตอบที่ได้ก็ทำให้เขารู้ว่าไม่มีใครจำเหตุการณ์เดียวกับที่เขาได้พบเจอ
ที่ตึกสถานีวิทยุเมื่อเช้าได้เลย


ในระหว่างที่กำลังพูดหยอกล้อกับมิสเตอร์
เบราน์ที่วันนี้ปิดร้านเร็วกว่าปกติ
โอคาเบะก็พบสาวน้อยที่ท่าทางร่าเริงวิ่งออกมาจากร้านเพื่อทักทายเขา
สาเหตุที่ทำให้มิสเตอร์เบราน์ปิดร้านเร็วตั้งเเต่เย็นเพราะว่าเขาต้องสัม
ภาษย์ "อามาเนะ สุซุฮะ" ที่จะมาทำงานพิเศษหลังจากวันนี้
เเต่โอคาเบะก็ต้องเอือมระอากับการผ่านสอบสัมภาษย์เพียงเเค่สุซุฮะตอบว่าเธอ
ชอบ CRT TV,
เเละดูเหมือนข้าวโพดในถุงที่โอคาเบะถือมานั้นจะดึงดูดความสนใจของสุซุฮะได้
เป็นอย่างดี เพราะเธอทำท่าสนใจอย่างกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน

เเละเเม้ว่าโอคาเบะจะเป็นคนเพี้ยนๆที่พูด
เรื่องช่วยโลกจนสุซุฮะหลงเชื่อ
เขาก็ยังไม่ลืมที่จะเเบ่งปันน้ำใจเล็กๆน้อยๆด้วยการให้ข้าวโพดกับสุซุะไปฝัก
นึง นับว่าวันนี้เขาได้เเบ่งปันน้ำใจให้เห็นบ่อยมากทีเดียว


ในคืนนี้เอง
โอคาเบะได้พยายามค้นหาข้อมูลของเรื่องต่างๆที่ผิดเเผกไปจากความทรงจำของเขา
บนอินเตอร์เน็ต ทั้งเรื่องการยกเลิกเเถลงข่างของศจ.นาคาบาจิ
หรือมากิเสะที่ถูกฆาตกรรมจนทำให้ย่านอกิบะเเตกตื่น เเต่ไม่ว่าจะเรื่องใหนๆ
เขาก็ไม่พบว่ามันเคยเกิดขึ้นเลย เเต่เขาก็ได้กับพบหัวข้อการพูดคุยเรื่อง
จอห์น ไตเตอร์ ที่เขาคุ้นเคยดี โดยในที่นี้ได้กล่าวถึง จอห์น ไตเตอร์
เป็นผู้มาจากอนาคตในปี 2036 เพื่อทำลายล้างองค์กร SERN
เเละเเก้ไขอนาคตใหม่อีกครั้ง

เเต่เพียงการเก็บข้อมูลอันน้อยนิดคงไม่ทำ
ให้เขาได้อะไรมาก โอคาเบะจึงลองค้นหาข้อมูลเพิ่มดู เเต่กลับพบว่า จอห์น
ไตเตอร์ ที่น่าจะโด่งดังไปทั่วนั้นกลับมีผลลัพธ์การค้นหาเเค่
12ในการค้นหาด้วยภาษาญี่ปุ่น เเละ 56ผลลัพธ์ด้วยการพิมพ์ภาษาอังกฤษ
ทำให้โอคาเบะนั่งไม่ติดที่
ต้องรีบลุกขึ้นมารื้อชั้นหนังสือเพื่อหาหนังสือของ จอห์น ไตเตอร์
ที่เขาเคยมีอยู่ เเต่เขาก็หาไม่พบเเละคิดว่าดาลุทิ้งไปเเล้ว
โอคาเบะเลยโทรไปถามดาลุให้เเน่ใจ เเต่เรื่องชวนปวดหัวในค่ำคืนนี้ยังไม่หมด
เพราะว่าดาลุ ไม่รู้จักจอห์น ไตเตอร์ ราวกับว่าไตเตอร์ไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

ถึงจะถามหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
ก็ไม่ช่วยให้โอคาเบะรู้สึกดีขึ้น เช้าวันต่อมาเขาจึงออกมาข้างนอก
เเละพบว่ามีหญิงสาวใส่เเว่นเเละมีผมยาวท่าทางคล้ายคนต่างชาติกำลังถ่ายรูป
เขาอยู่
เขาจึงพยายามวิ่งเข้าไปหยุดเธอที่กำลังเดินหนีไปด้วยภาษาญี่ปุ่นเเละอังกฤษ
สลับกันเพื่อให้เธอหยุดได้
เเต่ดูท่าทางหญิงสาวคนนี้จะเป็นคนที่เเปลกประหลาดซักหน่อย
เพราะเธอได้ถ่ายรูปสิ่งที่เธอพบ สิ่งที่เธอเห็นวันนี้เอาไว้ทั้งหมด
เเละเธอก็ได้ชิงถามโอคาเบะก่อนโดยการเปิดรูปในมือถือให้ดูเพื่อถามหา
คอมพิวเตอร์รุ่นหนึ่งที่เธอกำลังตามหาอยู่


โอคาเบะที่ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์
มากนัก เขาจึงคิดว่าดาลุน่าจะให้คำตอบได้
เเต่โอคาเบะก็ไม่ยอมบอกเรื่องดาลุให้กับสาวเเว่นท่าทางเเปลกๆที่มาถ่ายรูป
เขาได้ง่ายๆ สาวเเว่นคนสวยจึงขอเเลกข้อมูลกับการที่เธอจะลบรูปของโอคาเบะให้
เเต่ถึงอย่างงั้นโอคาเบะก็ไม่ใช่คนขายเพื่อน
เขาเลยขอเเลกเปลี่ยนอีเมล์ของเขาให้เป็นการติดต่อผ่านกันเเทน
เเละด้วยความหวังดีที่เห็นเธอพิมพ์ชื่อโฮวอิน เคียวม่ะผิด
โอคาเบะเลยจะขอพิมพ์ให้
เเต่ดูเหมือนผู้หญิงเเปลกๆคนนี้จะหวงมือถือเยี่ยงชีวิตเอามากๆเลย


โอคาเบะได้มาหาดาลุที่เมดคาเฟ่ "เมย์ ควีน
เหมียว" เเละพบมายูริกับเฟริสที่ทำงานอยู่ที่นี่
ไม่ว่าจะเห็นมายูริกี่ครั้ง
เขาก็ยังคงเเปลกใจกับรูปลักษณ์ของมายูริที่เปลี่ยนไปอยู่ทุกที
เเละโอคาเบะก็ได้ทักทายกับเฟริสที่เข้ามาทักทายด้วยความคิดถึงว่าเขากำลัง
ต่อกรกับองค์กรที่ยิ่งใหญ่อยู่ ทำให้เขาไม่ได้มาหาเฟรินซะนาน
เมื่อเฟรินได้ฟังเรื่องเธอก็เข้าใจเเละบอกว่าเธอเองก็พร้อมสู้เเละฝึกวิชา
ไว้เพื่อการล้างเเค้นเเล้วเช่นกัน
ดูเหมือนการที่โอคาเบะเป็นต้นเหตุให้เฟริสติงต๊องเเบบนี้
จะทำให้ดาลุเเอบเคืองโอคาเบะอยู่เหมือนกัน


สมเเล้วที่ดาลุได้ชื่อว่าเเฮคเกอร์เเละ
เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์
เพราะเมื่อโอคาเบะได้ให้ดาลุดูภาพที่เขาได้มาจากสาวเเว่นท่าทางมืดมนที่ได้
พบกันก่อนหน้านี้ ดาลุก็รู้ทันทีว่านี่คือเครื่องคอมรุ่น IBN 5100
เเละมีข่าวลือว่ามันมีอยู่ในกิบะเเห่งนี้ เเต่ก็ไม่มีใครหามันเจอเลยซักคน
ในระหว่างนี้เองที่โอคาเบะได้เมล์มาจากคนคนหนึ่ง
ซึ่งเมื่อเขาเปิดดูก็พบว่าผู้ส่งชื่อ "คิริว โมเอกะ"
เเม้ว่าข้อความจะถูกเขียนด้วยใช้คำเเละใส่ไอค่อนน่ารักๆเหมือนที่เด็กสาว
สมัยนี้เขาทำกัน
เเต่จากเนื้อความก็ทำให้โอคาเบะรู้ว่าผู้ส่งคือสาวเเว่นมืดมนที่ได้เจอกัน
ก่อนหน้านี้
ตัวเองก็เเปลกอยู่เเล้ว เจอคนเเปลกๆเพิ่มเเบบนี้ โอคาเบะคงต้องปวดหัวต่อไปเหมือนกับการที่เห็นข้าวไข่เจียวที่ดาลุสั่งมา พร้อมกับราดซอสด้วยคำว่า "โลกกำลังอยู่ในอันตราย"
ตัวเองก็เเปลกอยู่เเล้ว เจอคนเเปลกๆเพิ่มเเบบนี้ โอคาเบะคงต้องปวดหัวต่อไปเหมือนกับการที่เห็นข้าวไข่เจียวที่ดาลุสั่งมา พร้อมกับราดซอสด้วยคำว่า "โลกกำลังอยู่ในอันตราย"


เมื่อกลับมาที่เเล็ป
โอคาเบะได้ขอดาลุใช้โทรศัพท์ไมโครเวฟอีกครั้ง
ที่จริงเเล้วเจ้าไมโครเวฟนี่โอคาเบะได้สรร้างเเละดัดเเปลงมันขึ้นมาใหม่ด้วย
ทฤษฐีบางอย่างเพื่อให้ถาดหมุนย้อนกลับด้านเเละส่งของที่อยู่ข้างในกลับไปสู่
อดีตได้ เเละเเน่นอนว่าเหยื่อที่น่าสงสารคือกล้วยที่มายูริซื้อมาอีกเเล้ว
เเต่เพื่อรักษาน้ำใจเเละของกินที่ไม่ควรเอามาเล่น
ดาลุจึงดึงกล้วยออกมาทดลองเเค่ลูกเดียว


เเละในตอนนี้
ต่อให้เป็นเรื่องคนตายฟื้นคืนชีพหรือความทรงจำที่เเตกต่าง
ก็คงไม่ทำให้โอคาเบะเเละดาลุตกใจได้มากไปกว่าการที่เขาตั้งเวลาไมโครเวฟ
120วินาทีเเละพบว่า กล้วย 1ลูกได้หายไปจากไมโครเวฟ ไม่มีใครอยากเชื่อในสายตาตัวเอง เเม้เเต่โอคาเบะก็ยังไม่เข้าใจว่ามันหายไปได้ยังไงนอกจากจะเป็นการเทเลพอร์ต

ทว่าเจ้ากล้วยไม่ได้หายไปใหน
เเต่มันกลับไปคืนสู่หวีของมันในสภาพ เจล-บาน่า เพียงลูกเดียวจนเด่นสะดุดตา
ซึ่งการที่มันกลับไปต่อติดกันอย่างน่าเหลือเชื่อราวกับว่าส่ง "สภาพปัจจุบันกลับไปสู่อดีต" ได้เเบบนี้นั้น คงเรียกได้ว่าเทเลพอร์ตหรือไม่ก็ การย้อนเวลากลับไป เหมือนไทม์เเมชชีนที่ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้มาก่อน

"ทำการพิสูจน์ได้น่าสนใจดีนะ โอคาเบะ รินทาโร่ ไม่สิ.. ต้องเรียกว่าคุณโฮวอิน เคียวม่ะ สินะ?"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น