
สาเหตุที่เธอ มองข้ามโอคาเบะที่กำลังทำตัวบ้าๆบอๆโทรศัพท์เหมือนทุกทีนั้นก็คงจะเป็นเพราะ เจ้ากล้วย เจล-บาน่า ที่กลับมาต่อติดในหวีของมันได้อย่างสมบูรณ์เเบบ




มากิเสะคงจะไม่ถูกกับเรื่องลามกของดาลุเท่า
ไหร่
เพราะระหว่างที่เธอกำลังลองพิสูจน์เจ้าเจล-บาน่าด้วยการชิมจนต้องบ่นออกมา
ว่าเป็นกล้วยโรคจิต
ดาลุก็ขอให้เธอพูดคำเเปลกๆออกมาจนตีความได้เเบบผู้ปกครองควรพิจารณา
ซ้ำร้ายที่โอคาเบะกลับได้โอกาศล้อเลียนมากิเสะว่าเป็น สาวน้อยโรคจิตอัฉริยะ
อีกต่างหาก




ก่อนที่จะเถียงกันเรื่องหื่นๆจนโรคจิตกันไป
มากกว่านี้จนไม่ได้พิสูจน์อะไรกันซะที
โอคาเบะได้เสนอให้มากิเสะเข้าร่วมสมาชิกกับพวกเขา
เเต่ดูเหมือนว่าสาเหตุที่มากิเสะยอมเข้ากลุ่มคงจะเป็นเพราะอยากให้โอคาเบะ
เลิกล้อเลียนเธอซะที เเต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร
โอคาเบะก็ได้เเต่งตั้งให้มากิเสะเป็นสมาชิกหมายเลข 004เเล้ว
เเต่เขาก็ยังไม่ทิ้งลาย หันไปล้อมากิเสะว่า "คริสติน่า" เเทน เพราะว่าชื่อ
คุริสุ ของเธอสามารถเพี้ยนว่า คริส ได้ด้วย


การที่มีสมาชิกหญิงเข้ามาเพิ่มดูเหมือนจะทำ
ให้เเล็ปดูเจริญหูเจริญตาขึ้น
เพราะเมื่อมายูริกลับมาเเละรู้ว่ามากิเสะเป็นสมาชิกใหม่
เธอก็พุ่งเข้าไปกอดเเละเเนะนำตัวกันอย่างสนุกสนานทันที

เเต่ไม่ทันไร มากิเสะก็ต้องหันมาสนใจโอคาเบะที่กำลังโวยวายกับดาลุอยู่
เพราะดาลุนึกออกลางๆว่าเมื่อวานเขาได้เชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับไมโครเวฟอยู่
ทำให้โอคาเบะนึกออกว่านั่นคงเป็นช่วงที่เขากดส่งข้อความเรื่องที่มากิเสะถูก
เเทงไปหาดาลุพอดี จึงทำให้ไมโครเวฟทำงานเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
เเต่ถึงอย่างงั้นดาลุก็ยังจำได้ว่าโอคาเบะส่งข้อความมาเมื่อสัปดาห์ที่
เเล้วอยู่ดี ทำให้โอคาเบะต้องเช็คข้อความในมือถือของเขาอีกครั้ง
เเต่ก็พบว่าข้อความเจ้ากรรมมันยังคงหายไปไม่กลับมาอยู่เหมือนเดิม




การพิสูจน์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิทยา
ศาสตร์ พวกโอคาเบะตัดสินใจใช้โทรศัพท์ไมโครเวฟอีกครั้งโดยการเอา คาราอาเกะ
ที่มายูริเพิ่งซื้อมาเป็นเหยื่อทดลอง เเต่คราวนี้สลับกัน
โอคาเบะใช้มือถือของเขาเชื่อมต่อกับไมโครเวฟ
เเละให้ดาลุเป็นคนส่งข้อความมาเเทน ดาลุเลยเเอบเเก้เผ็ดส่งข้อความไปหาว่า
"โอคารินโรคจิต" ทำให้มากิเสะถึงกับต้องยกนิ้วให้กับวิธีเเก้เผ็ดเเบบเนียนๆ

ภายในเเล็ปนี้ คงมีเพียง มายูริ
ที่ไม่ได้สนใจเเละรู้เรื่องทฤษฐีอะไรพวกนี้
เพราะฉะนั้นคงไม่เเปลกเลยที่เธอจะเปิดฝาไมโครเวฟออกมาระหว่างที่พวกโอคาเบะ
กำลังทดลองอยู่เพื่อดูว่าคาราอาเกะเเสนอร่อยนั้นได้ที่เเล้วรึยัง
เเละ นั่นก็ทำให้เกิดไฟช็อตออกมาอย่างรุนเเรงจากไมโครเวฟ ทำให้โอคาเบะต้องป้องกันให้มายูริถอยออกมา ส่วนมากิเสะกับดาลุก็ถอยไปหลบกันคนละทิศคนละทาง
เเละ นั่นก็ทำให้เกิดไฟช็อตออกมาอย่างรุนเเรงจากไมโครเวฟ ทำให้โอคาเบะต้องป้องกันให้มายูริถอยออกมา ส่วนมากิเสะกับดาลุก็ถอยไปหลบกันคนละทิศคนละทาง




จากเหตุสุดวิสัยครานี้ถึงกับทำให้ไมโครเวฟ
ระเบิดจนโต๊ะที่วางอยู่นั้นถึงกับพังไป เเต่มันก็ยังไม่สูญเปล่า
เพราะโอคาเบะตรวจสอบมือถือของเขาพบข้อความที่ดาลุเพิ่งส่งมาให้เมื่อกี๊อยู่
นอกจากจะรับข้อความได้เเล้ว ยังพบว่าวันที่ส่งข้อความกลายเป็นวันที่
24กรกฎาคม ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่ 29กรกฎาคม
ซึ่งนั่นทำให้โอคาเบะประติดประต่อเเละสรุปเรื่องเเปลงประหลาดทั้งหมดที่เกิด
ขึ้นในครั้งนี้ได้เเล้ว
"5555 ชั้นเชื่อมโยงทุกอย่างได้เเล้ว! มองเห็นเเล้ว.. คำตอบของจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง..
กล้วยที่เเยกออกมาเเล้วกลับไปอยู่ที่หวีเหมือนเดิม! เเละข้อความของเมื่อ 5วันก่อน!
โทรศัพท์ไมโครเวฟนี่คือไทม์เเมชชีน ไงล่ะ!!"


กล้วยที่เเยกออกมาเเล้วกลับไปอยู่ที่หวีเหมือนเดิม! เเละข้อความของเมื่อ 5วันก่อน!
โทรศัพท์ไมโครเวฟนี่คือไทม์เเมชชีน ไงล่ะ!!"


ในเวลาต่อมา
โอคาเบะที่กำลังนั่งๆนอนๆด้วยความเซ็งที่มากิเสะไม่เชื่อเรื่องไทม์เเมชชี
นที่เขาสร้างจนหนีกลับไปก่อนก็พบว่าดาลุกำลังดูอะไรบางอย่างอยู่
เจ้าท่อเหล็กขนาดใหญ่ที่ดาลุกำลังดูอยู่นั้นคือ "LHC"
เครื่องสร้างอนุภาคที่องค์กร SERN สร้างขึ้นมา
ถ้าไม่ได้ความอยากรู้อยากเห็นเเละการสะกิดใจเรื่องของจอห์น
ไตเตอร์ของโอคาเบะก็คงจะไม่ได้รู้ว่าอค์กร SERN
นั้นเป็นองค์กรใหญ่ของยูโรเปี้ยนที่วิจัยเรื่องนิวเคลียเเละอนุภาคต่างๆทาง
ฟิสิกซ์ จึงไม่เเปลกเลยที่จะมีอุปกรณ์เเปลกประหลาดต่างๆอยู่มากมาย

เเต่นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวลือว่าเจ้า LHC
นี้สามารถสร้าง "เเบล็คโฮล ขนาดเล็ก" ขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
จึงทำให้โอคาเบะสนใจเป็นอย่างมาก
เขาจึงขอร้องคนที่เขาเรียกว่าซูเปอร์เเฮ็คเกอร์อย่างดาลุ
ให้ช่วยเเฮ็คข้อมูลการทดลองขององค์กรณ์SERN
เพื่อพิสูจน์ทฤษฐีที่ไม่น่าเป็นไปได้นี้ให้เเน่ชัด

เมื่อทิ้งดาลุจากร้านราเม็งมาเเล้ว
โอคาเบะก็ได้มาเจอสุซุฮะที่กำลังซ่อมจักรยานของเธออยู่
ดูเหมือนสุซุฮะจะรู้เรื่องของจอห์น ไตเตอร์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เเม้เธอจะบอกว่าเธอเห็นมาจากอินเตอร์เน็ตก็ตาม
เเละดูเหมือนข้อมูลที่เธอพูดออกมาจะทำให้โอคาเบะสะกิดใจเรื่องบางอย่างได้

ข้อมูลของจอห์น
ไตเตอร์เพิ่มเติมที่โอคาเบะได้มาก็คือทฤษฐีสมมติ
เช่นว่าหากใครคนหนึ่งได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเเละฆ่าคนคนนึงที่สมมติว่าชื่อ
PG จนตายไป ในเวลาต่อมาโลกจะดำเนินต่อไปโดยไม่มี PG เเละในเวลาปัจจุบัน
โลกที่ถูกเปลี่ยนเเปลงนี้ก็จะถูกลบความทรงจำเรื่อง PG
ออกจากหัวของทุกคนเเละโลกโดยอัตโนมัติ เหมือนว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่มาก่อนเลย
(ส่วนลูกหลานในอนาคตก็จะไม่เกิดมาเช่นกัน
ถ้าสมมติลูกหลานเป็นคนกลับมาฆ่าบรรพบุรุษ
ตัวลูกหลานก็คงจะหายไปโดยอัตโนมัติ)


ดูเหมือนดาลุจะคร่ำเคร่งอย่างหนัก
ทำให้โอคาเบะกับมายูริต้องหนีขึ้นมากางร่มกินโอเด้งบนดาดฟ้าเพื่อลี้ภัยจาก
ดาลุที่เสียสติ
เเละโอคาเบะยังคงแสดงน้ำใจเเละนิสัยหยอกล้อของเขาด้วยการเเลกของกินเหมือน
เดิม ช่วงเวลาปกติเเบบนี้ทำให้มายูริดูเป็นคนที่มีความสุขที่สุดเเล้ว


ในที่สุดความพยายามของซูเปอร์เเฮ็คเกอร์ก็
เป็นผล หลังจากที่เเฮ็คข้อมูลได้
โอคาเบะก็พยายามขอให้ดาลุช่วยค้นหาข้อมูลเรื่องไทม์เเมชชีนทันที
เเต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขาตามหาอยู่นั้น
จะไม่ได้น่าพิศมัยอย่างที่พวกเขาหวังไว้
เพราะในรายงานเรื่องมินิเเบล็คโฮลที่สามารถทำได้จริงนั้นพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากการทดลอง ด้วย

"Human is Dead"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น