
โอคาเบะลืมตาขึ้นมาพบว่าเขาอยู่ในสถานที่
อันรกร้างที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากผืนดินเเละฝุ่นทราย
เเต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งดึงดูดให้เขาสนใจได้เท่ากับเสียงอันอ่อนโยนของมายูริ
ที่กำลังพูดกับเขาอยู่
"ที่นี่.. คือโลกเมื่อ 70ล้านปีก่อนน่ะ โอคารินถูกไทม์เเมชชีนส่งมาที่นี่ยังไงล่ะ
มายูชี่น่ะ พยายามไล่ตามโอคารินภายในเส้นทางของโลกมาโดยตลอดเลย
โอคารินที่อยู่ที่นี่น่ะ เป็นต้นเเบบเพียงคนเดียวจากจำนวนโอคารินที่มีอยู่มากมาย
มายูชี่ที่อยู่ที่นี่เองก็เป็นต้นเเบบจากจำนวนมายูชี่ที่มีอยู่มากมายเหมือนกัน"

"เเละโอคารินกับมายูชี่อาจจะตายด้วยกันที่นี่ก็ได้ เเต่ในอีก 70ล้านปีหลังจากนี้
อาจจะมีโอคารินกับมายูชี่อยู่ที่อากิฮาบาร่าด้วยกันก็ได้"

"เพราะงั้น ไม่ต้องห่วงหรอกนะ"




มายูชี่น่ะ พยายามไล่ตามโอคารินภายในเส้นทางของโลกมาโดยตลอดเลย
โอคารินที่อยู่ที่นี่น่ะ เป็นต้นเเบบเพียงคนเดียวจากจำนวนโอคารินที่มีอยู่มากมาย
มายูชี่ที่อยู่ที่นี่เองก็เป็นต้นเเบบจากจำนวนมายูชี่ที่มีอยู่มากมายเหมือนกัน"

"เเละโอคารินกับมายูชี่อาจจะตายด้วยกันที่นี่ก็ได้ เเต่ในอีก 70ล้านปีหลังจากนี้
อาจจะมีโอคารินกับมายูชี่อยู่ที่อากิฮาบาร่าด้วยกันก็ได้"

"เพราะงั้น ไม่ต้องห่วงหรอกนะ"




วันที่ 13 สิงหาคม
โอคาเบะยังคงเหม่อลอยจากความเครียดที่ถูกองค์กรณ์SERNคอยกดดัน
ขนาดมากิเสะยังรู้สึกถึงอาการผิดสังเกตุากโอคาเบะที่กำลังคอยถือชุดคอสเพลย์
ให้มายูริอยู่ได้อย่างชัดเจน

เเต่ในที่สุด
มากิเสะเเละดาลุก็ช่วยกันประดิษฐ์เเละเเก้ไขDเมล์จนเสร็จสมบูรณ์
โดยคราวนี้ได้เพิ่มออพชั่นหูฟังคลอบหูเอาไว้ส่งผ่านข้อมูลความทรงจำไปยัง
อดีตด้วย ซึ่งมากิเสะก็ได้เรียกเจ้าเครื่องที่อัพเกรดนี้เเล้วว่า "Time
Leap Machine"


ที่เเตกต่างจากDเมล์เพราะมันสามารถส่ง
ข้อมูลได้มากขึ้นโดยเป็นความทรงจำในช่วง48ช.ม.ที่ผ่านมา
เเละถ้าส่งมากเกินไปยิ่งกว่านี้ มันอาจจะผิดพลาดได้


เเต่ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการ
พิสูจน์เเละทดลองจริง
ถึงจะสร้างเสร็จเเล้วก็ไม่รับประกันความปลอดภัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวผู้
ทดลองบ้าง เเต่โอคาเบะก็ไม่อยากเสี่ยงอีกเเล้ว เขาจึงไม่ขอทดลองใดๆทั้งสิ้น
เเละตัดสินใจที่จะมอบเจ้าเครื่องนี้ให้กับองค์กรที่คู่ควรกับมัน
ซึ่งนั่นก็ทำให้มายูริดีใจมาก

ในเวลาต่อมา ที่เเล็ปคิดจะจัดปาร์ตี้กัน
โอคาเบะจึงได้ออกมาซื้อของกับมากิเสะกันสองคน
มากิเสะรู้สึกเป็นห่วงโอคาเบะที่เเปลกไปจากเดิมอยู่เหมือนกัน
เเต่สิ่งที่โอคาเบะเป็นห่วงอยู่ตอนนี้ก็คือมายูริ ถึงอย่างงั้น
เมื่อมากิเสะพูดเรื่องพ่อของเธอขึ้นมา
โอคาเบะก็ยังคงยืนยันว่ามากิเสะเป็นพวกพ้องคนสำคัญที่สุดของเขา

คำพูดนั้นยังคงทำให้มากิเสะดีใจมากเเละพูด
ขอบคุณออกมาด้วยความเขินอาย
เเต่มันกลับทำให้โอคาเบะเขินหน้าเเดงไปด้วยจนต้องรีบวิ่งไปจับหน้าผากมากิ
เสะอย่างรวดเร็วว่านิสัยอ่อนหวานเเบบนี้เป็นเพราะไข้หวัดรุกรานรึเปล่า
เเต่กลายเป็นว่าทั้งคู่ต่างอายจนต้องโวยวายใส่กันเองซะนี่


สวรรค์คงจะลงโทษดาลุที่สั่งพิซซ่ามาหน้า
เหมือนกันทั้งสามกล่องเเถมเเอบกินไปเองก่อนเเล้วเเน่ๆ
เพราะเมื่อพวกโอคาเบะกลับมา มากิเสะก็คิดจะทำอะไรบางอย่างให้กิน
ถ้ามองถึงพายเเอปเปิ้ลในคราวที่เเล้วล่ะก็
นี่ถือเป็นหายนะของสมาชิกในเเล็ปเเน่นอน
เเต่ไม่รู้จะโชคดีหรือโชคร้ายที่มายูิได้พาสุซุฮะมาที่เเล็ปด้วย
ทำให้สุซุฮะเขม่นกับมากิเสะเเละเถียงกันเรื่องที่มากิเสะเป็นคนของ
องค์กรSERN
ซึ่งสุซุฮะบอกว่าเธอได้ทำนายเอาไว้ว่าหลังจากนี้มากิเสะจะทำอะไรเธอรู้หมด
ทุกอย่าง เพราะงั้นมากิเสะจะต้องเป็นคนของSERNเเน่นอน

เเต่ก่อนที่สถานการณ์จะรุนเเรงขึ้นไป
มากกว่านี้ชนิดที่ว่าโอคาเบะยังไม่อาจห้ามได้
มายูริก็ขอให้ทั้งคู่เลิกทะเลาะกัน
เเละอยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานมากกว่า
เเน่นอนว่าทุกคนต้องยอมเลิกเพราะลูกอ้อนของมายูริอีกเเล้ว


ในเวลาต่อมา
สุซุฮะได้เล่นไพ่เเข่งกับโอคาเบะโดยเดิมพันด้วยเค้กเเสนอร่อยกัน
ซึ่งมากิเสะทีเคยชนะโอคาเบะมาอย่างขาดลอยเเล้วก็ช่วยเเนะนำสุซุฮะให้ชนะจน
ได้ ทำให้โอคาเบะพาลอารมณ์เสียจนต้องหนีขึ้นดาดฟ้าไป
มากิเสะจึงขอให้มายูริตามไปคอยดูโอคาเบะให้หน่อย


มายูริได้เอาไลท์เซเบอร์ปลอมที่เป็นสิ่งประ
ดิษย์หมายเลขหกของเเล็ปมาเเกล้งหลอกโอคาเบะให้รู้สึกดีขึ้น
มายูริบอกว่าเธอดีใจมากที่ได้กินของอร่อยเเละอยุ่กับทุกคนอย่างสนุกสนาน
เเถมยังมีสมาชิกเเล็ปเพิ่มขึ้นกับคนอื่นๆที่อยู่ด้วยกันอีกมากมาย

ที่สำคัญคือโอคาเบะดูร่าเริงกว่าเมื่อก่อน
มากตั้งเเต่ที่ได้เจอกับทุกคน
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้มายูริมีความสุขที่สุดในตอนนี้
เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกเเล้ว
ซึ่งคำพูดของมายูริก็ทำให้โอคาเบะนึกถึงภาพความฝันที่ดินเเดนรกร้าง


ดาลุรีบบอกให้พวกโอคาเบะมาดูทีวีที่กำลัง
เกิดเรื่องอยู่ในตอนนี้
รถไฟที่ถือเป็นพาหนะโดยสารที่สำคัญของญี่ปุ่นได้พากันหยุดวิ่งไปหมดด้วยเหตุ
ขู่วางระเบิด สุซุฮะได้ถามดาลุเรื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับSERNอยู่
ทำให้เธอรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติไป เเถมIBN5100ก็ไม่อยู่เเล้วด้วย
ทำให้สุซุฮะลุกขึ้นมาพยายามจะบอกทุกคนว่าให้ทำอะไรบางอย่างในตอนนี้ที่ยัง
ทันเวลาอยู่ เเต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเเละรีบขอตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว


โอคาเบะได้พบความผิดปกติบางอย่างเเล้ว
นาฬิกาทรายในห้องเขาเเละนาฬิกาพกของมายูริได้หยุดเดินไปทั้งคู่
ความวิตกนี้ทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างเลย

เเละเเล้วกลุ่มคนปริศนาก็ได้บุกเข้ามาใน
เเล็ป ถึงการเเต่งตัวจะดูเเปลกๆ เเต่นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
คนกลุ่มนั้นมีปืนจริงอยู่กับตัว
พวกเขาได้อาละวาดเเละสั่งให้พวกโอคาเบะยกมือขึ้น
พวกโอคาเบะที่ได้เเต่ตกใจเเละไม่ทันตั้งตัวก็ได้เเต่ต้องยอมทำตามเเต่โดยดี
โดยที่ยังสงสัยว่านี่มันเรื่องอะไรกัน


เงามืดเเห่งความชั่วร้ายคลืบคลานเข้ามายัง
ห้องเเล็ปเเห่งอนาคต คิริว โมเอกะ ผู้เงียบงันได้ปรากฏตัวขึ้นมาในชุดสีดำ
เธอได้เล็งปืนไปที่พวกโอคาเบะเเละบอกว่าเธอจะนำไทม์เเมชชีนเเละโอคาเบะ
มากิเสะ เเละดาลุกลับไปตามคำสั่งของSERN
ความเป็นความตายของตัวเองในตอนนี้ไม่สำคัญเเล้ว
โอคาเบะถามโมเอกะว่าเธอจะทำอะไรกับมายูริ
เพราะเธอเป็นคนสำคัญของเขาที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเลย ทว่า
คำตอบของโมเอกะนั้นได้นำพาโอคาเบะให้จมดิ่งสู่ความมืดมิดถึงขีดสุด

"ชิอินะ มายูริ.."

"ไม่จำเป็นกับเรา"

"อย่านะ... ขอร้องล่ะ"
โอคาเบะพยายามขอร้องโมเอกะที่กำลังจะเหนี่ยวไกปืนให้หยุดทำอะไรเเบบนี้
เเต่เธอไม่ใช่โมเอกะที่เขารู้จักอีกเเล้ว




สิ้นเสียงปืน
ร่างเล็กๆของมายูริได้ล้มลงพร้อมกับเลือดสีเเดงที่กระเด็นไปเต็มห้อง
ลูกกระสุนปืนพุ่งเข้ากลางหน้าผากของมายูริจนทำให้เธอสิ้นใจโดยไม่ทันได้เอ่ย
อะไรออกมาเลยซักนิดเดียว




เหตุการณ์เกิดคาดคิดเเละเกินจะรับได้นี้คือ
ความจริงงั้นหรือ
ภาพของมายูริได้ไหลเวียนเข้ามาในหัวของโอคาเบะในระหว่างที่เขากำลังอุ้มมายู
ริที่มีเลือดไหลรินอาบเเก้มขึ้นมา
เธอเป็นเพื่อนที่อยู่กับเขามาตั้งเเต่เด็ก
เเละพวกเขาก็เเค่อยากจะอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนานเท่านั้นเอง
เเล้วทำไมเด็กสาวตัวเล็กๆที่ใจดีกับทุกคนอย่างมายูริที่ไม่เกี่ยวข้องอะไร
กับเรื่องนี้ถึงต้องมาตายเเบบนี้ด้วย
"นี่มันอะไรกัน.."

"นี่มันอะไรกัน!!!"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น