



วังวนแห่งฝันร้ายยังคงหลอกหลอนอยู่ต่อไป
โอคาเบะพยายามช่วยเหลือมายูริภายในช่วงเวลาต่างๆ
เเต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้เลย ความสิ้นหวังถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ
ถึงพวกโมเอกะจะไม่ฆ่าเธอ เเต่ชะตากรรมก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เพราะโอคาเบะนี่เเหละที่จะเป็นคนฆ่ามายูริเอง
ด้วยการทดลองของเขาที่จะทำให้มายูริที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กลายเป็นเจลไป


อีกซักครั้ง
โอคาเบะพยายามพามายูริหนีด้วยรถแท็กซี่
เเต่การจราจรกลับแออัดเพราะเหตุรถไฟหยุดวิ่ง
จนไม่สามารถทำให้รถขยับไปไหนได้เลย
ในขณะนั้นเองที่นาฬิกาพกของมายูริได้หยุดลงพร้อมกับชีวิตของเธอที่ถูกดับลม
หายใจจากผู้ที่ยิงปืนเข้าในรถ โอคาเบะเริ่มทนไม่ไหวเเล้ว
ความเครียดของเขามาถึงขีดสุด
เขาต้องพยายามกลับไปทำให้ชะตากรรมอันโหดร้ายนี้จบลงไปซะที
"ทั้งองค์กร ทั้งสไตน์เกจ ทั้งตัวเลือกแห่งโชคชะตา ชั้นจะไม่ให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว!"


คราวนี้โอคาเบะได้หลอกล่อให้โมเอกะออกมาเจอ
กันตามลำพัง
โอคาเบะได้ใช้ปืนของเล่นซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขาไปจ่อหลังของโมเอกะ
ไม่ว่าโมเอกะจะรู้หรือไม่ว่านั่นเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม
เเต่เธอก็ยอมทำตามที่โอคาเบะบอกเเต่โดยดี
โอคาเบะพยายามถามเรื่องSERNเเละเรื่องที่เธอบุกไปทำร้ายพวกเขาที่แล็ป
โมเอกะก็บอกว่าเธอได้รับคำสั่งมาจากFB
เเต่ก่อนที่โอคาเบะจะได้ไขข้อข้องใจว่า FB คืออะไร
เขาก็ถูกตีที่ด้านหลังจนสลบไป
"FB คือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน"




โอคาเบะรุ้สึกตัวอีกทีพบว่าตัวเขาถูกมัดเอา
ไว้ในรถตู้ซึ่งจอดอยู่ใกล้กับที่พักของเขา ในที่นี้เอง
พวกโมเอกะได้เอาปืนมาข่มขู่เขาเอาไว้
ก่อนที่จะเข้าไปทำการจับกุมมากิเสะกับดาลุพร้อมกับดับลมหายใจของผู้พบเห็น
เหตุการณ์อย่างมายูริซะ
โอคาเบะพยายามขอร้องให้พวกโมเอกะไว้ชีวิตมายูริจนถึงกับร้องไห้ออกมา
นี่คือความเจ็บปวดที่มากที่สุดสำหรับเขาเเล้ว เเต่พวกโมเอกะก็ยังคงนิ่งเฉย
เเละทำตามหน้าที่ของตนต่อไป

โอคาเบะพยายามหนีออกมาอีกครั้ง เขายังคงพบฝันร้ายอยู่เหมือนเดิม
โอคาเบะจึงรีบร้อนไปย้อนเวลาด้วยตัวเองโดยหวังว่ามันจะจบลงซะที

เเต่เขาก็หาทางออกจากเขาวงกตนี้ไม่ได้
เมื่อย้อนกลับมาอีกครั้ง โอคาเบะที่สิ้นหนทางจึงคิดจะทำลาย Time Leap
Machine ทิ้ง เเต่เขาก็ทำไม่ลง
เขาจึงวิ่งหนีออกไปโดยไม่อธิบายอะไรให้พวกมากิเสะฟังเลย

โอคาเบะไปหาลูกะโดยรู้ว่ามายูริกลับไปเเล้ว
เขาบอกลูกะว่าเขารู้ดีว่ามายูริเฝ้ารอคอยงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นอย่างสนุก
สนานกับทุกคนขนาดไหน เเต่ทุกอย่างมันก็พังทลายหมดเเล้ว
ลูกะที่ตกใจกับท่าทางของโอคาเบะที่เเปลกไปก็ไม่รู่จะทำยังไงนอกจากพูดขอโทษ
ออกมา
การที่โอคาเบะมาโวยวายใส่ลูกะเพื่อเป็นการระบายให้ใครซักคนฟังนั้นอาจจะเป็น
เรื่องที่มีส่วนถูกอยู่บ้าง
เพราะเจอเรื่องแบบนี้เข้าไปหลายๆครั้งก็ไม่เเปลกเลยที่เขาจะเครียดจนเป็นบ้า


เวลายังคงดำเนินต่อไปอย่างสูญเปล่า
มากิเสะได้มาหาโอคาเบะที่กำลังโทษตัวเองอยู่คนเดียวว่าทั้งหมดมันเป็นความ
ผิดของเขา ทั้งเรื่องที่ให้ดาลุแฮ็คข้อมูลของSERN
ทั้งเรื่องที่เขาคิดจะสร้างไทม์แมชชีน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำล้วนเป็นเรื่องที่ผิดทั้งหมดจนทำให้มายูริต้องเป็น
เเบบนี้ ในเวลาแบบนี้
แม้แต่โอคาเบะที่ทำตัวเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาก็ยังจนปัญญาจนต้องหลั่งน้ำตาออก
มา

โอคาเบะได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง
ให้มากิเสะฟัง มากิเสะได้ยินอย่างงั้นจึงคิดจะช่วยอย่างเต็มที่
เพราะมายูริเองก็เป็นเพื่อนคนสำคัญเหมือนกัน เเละถ้าเธอพอจะช่วยอะไรได้
เธอก็อยากจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เเต่โอคาเบะก็ยังคงหมดเรี่ยวแรงที่จะกลับไปหาทางแก้ไขอยู่

มากิเสะจึงโพสท่าบ้าๆบอๆเเละหัวเราะออกมา
อย่างมั่นใจเหมือนกับที่โอคาเบะเคยทำมาตลอดเพื่อเตือนสติโอคาเบะว่าโอคาเบะ
ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะนั้นมักจะทำตัวไร้สาระเเบบนี้เสมอ
เพราะงั้นเขาจึงไม่ควรจะมานั่งซึมเศร้าให้เสียเวลาอยู่เเบบนี้
โอคาเบะเห็นว่ามากิเสะพยายามให้กำลังใจเเละช่วยเหลือเขาจริงๆ
เขาจึงพอจะยิ้มออกมาได้


ภายในวังวนแห่งฝันร้ายไร้ที่สิ้นสุดนี้
โอคาเบะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
เขายังมีเพื่อนพ้องคนสำคัญที่สามารถช่วยเหลือเขาได้อยู่
ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เเต่ที่จริงเเล้วพวกเขาก็คอยช่วยเหลือกันมาเสมอ
เเละในคราวนี้ มากิเสะก็จะเป็นคนที่ช่วยเหลือโอคาเบะบ้าง

เเต่จะให้ช่วยตอนนี้คงไม่ทัน
มากิเสะจึงได้ให้โอคาเบะย้อนเวลากลับไปบอกเรื่องทั้งหมดกับตัวเธอในอดีตอีก
ครั้ง เเต่เพื่อให้เป็นการน่าเชื่อถือจริงๆ
มากิเสะจึงได้บอกคีย์เวิร์ดลับว่า "ส้อมส่วนตัว"
เพราะนั่นคือสิ่งที่เธออยากได้ในตอนนี้หลังจากที่เธอมีช้อนส่วนตัวแล้ว
ถ้าบอกเรื่องนี้กับตัวเธอในอดีต คงจะเชื่อแน่นอนว่าโอคาเบะมาจากอนาคต
เพราะเธอไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย


โอคาเบะกลับมาวันที่13สิงหาคมเวลาประมาณ
บ่าย2 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เขาเคยกลับมา
ในตอนนี้เป็นช่วงที่มายูริกำลังทำชุดคอสเพลย์เเละเป็นช่วงที่พวกมากิเสะ
เพิ่งทำ Time Leap Machine เสร็จ เขาจึงสั่งให้ทุกคนเเยกย้ายกลับทันที
เหลือเพียงเขากับมากิเสะที่จะได้ช่วยกันหาทางช่วยเหลือมายูริได้
หลังจากบอกเรื่อง ส้อมส่วนตัวจนมากิเสะในช่วงเวลานี้เชื่อแล้ว
ทั้งคู่ก็พยายามคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
มากิเสะคิดว่าเพราะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นมา
ทำให้เสนทางของโลกมันถูกล็อคเอาไว้แบบนี้

สุซุฮะที่แอบฟังอยู่ก็ได้เข้ามาเสริมว่ามา
กิเสะพูดถูกเเล้ว
เเละเธอยังบอกว่าการที่จะช่วยเหลือโลกนี้นั้นจะต้องไปสู่ข้อมูลเส้นทางของ
โลกด้วยการข้ามผ่านเส้นป้้องกันความแตกต่างเพียง1%


สุซุฮะได้พาพวกโอคาเบะมาที่ตึกวิทยุเเละเอา
มิเตอรที่มีลักษณะเหมือนหลอดเเก้วเล็กๆแปดหลอดวางเรียงรายอยู่ให้พวกโอคาเบะ
ดู ภายในหลอดเเก้วเล็กๆพวกนั้นได้มีตัวเลขขึ้นแสดงเอาไว้ "0.337187"
นั่นคือเวลาของช่่วงเวลานี้
สุซุฮะบอกว่าคนที่สร้างมันขึ้นมาคือโอคาเบะนั่นเอง
เพราะความแตกต่างของช่วงเวลานั้นอาจเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้
โอคาเบะที่มีพลังในการย้อนเวลาเเละส่งความทรงจำกลับไปในอดีตได้
ทำให้ตัวโอคาเบะในอนาคตได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา
เเละสุซุฮะก็ได้โยนเชือกเส้นหนาสำหรับปีนป่ายขึ้นไปเกี่ยวเพดานสองเส้น
ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบว่าเส้นทางของโลกมันก็เหมือนกับเชือกเส้นแรก
ภายในการปีนขึ้นสู่เชือกเส้นนี้นั้นจะมีเส้นทางที่สลับซับซ้อนมากมาย
เเต่ในโอกาสเพียง1%
เส้นทางของโลกก็อาจจเปลี่ยนไปหาเชือกเส้นที่สองก็เป็นได้

สุซุฮะได้พาพวกโอคาเบะเข้าในตึกวิทยุ
ที่ซึ่งชั้นบนสุด หากยังจำกันได้ ดาวเทียมขนาดยักษ์ได้ตกลงมาที่นี่
สุซุฮะได้เดินไปที่ดาวเทียมยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าพร้อมบอกว่าการที่จะข้ามผ่าน
ช่วงเวลาจากช่วงหนึ่งสู่อีกช่วงหนึ่งนั้นเเทบเป็นไปไม่ได้เลย
เเต่ความสำเร็จในการสร้างไทม์แมชชีนในตอนนี้
ทำให้ในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้เเล้ว
สุซุฮะได้สัมผัสที่ตัวดาวเทียมขนาดใหญ่นั้น
ทำให้พวกโอคาเบะพบว่ามันสามารถเปิดประตูออกมาได้จนเหมือนมีห้องอยู่ข้างใน

"นี่คือไทม์แมชชีน ฉันมาจากปี2036
เเละฉันคือผู้เดินทางข้ามกาลเวลา"

"จอห์น ไตเตอร์ ไงล่ะ"
ในที่สุดความจริงที่เก็บซ่อนเอาไว้มาอย่างยาวนานก็ได้เปิดเผยออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามชมตอนต่อไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น