[Spoil]Steins;Gate ep14


วังวนแห่งฝันร้ายยังคงหลอกหลอนอยู่ต่อไป โอคาเบะพยายามช่วยเหลือมายูริภายในช่วงเวลาต่างๆ เเต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้เลย ความสิ้นหวังถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ ถึงพวกโมเอกะจะไม่ฆ่าเธอ เเต่ชะตากรรมก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะโอคาเบะนี่เเหละที่จะเป็นคนฆ่ามายูริเอง ด้วยการทดลองของเขาที่จะทำให้มายูริที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กลายเป็นเจลไป

อีกซักครั้ง โอคาเบะพยายามพามายูริหนีด้วยรถแท็กซี่ เเต่การจราจรกลับแออัดเพราะเหตุรถไฟหยุดวิ่ง จนไม่สามารถทำให้รถขยับไปไหนได้เลย ในขณะนั้นเองที่นาฬิกาพกของมายูริได้หยุดลงพร้อมกับชีวิตของเธอที่ถูกดับลม หายใจจากผู้ที่ยิงปืนเข้าในรถ โอคาเบะเริ่มทนไม่ไหวเเล้ว ความเครียดของเขามาถึงขีดสุด เขาต้องพยายามกลับไปทำให้ชะตากรรมอันโหดร้ายนี้จบลงไปซะที

"ทั้งองค์กร ทั้งสไตน์เกจ ทั้งตัวเลือกแห่งโชคชะตา ชั้นจะไม่ให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว!"


คราวนี้โอคาเบะได้หลอกล่อให้โมเอกะออกมาเจอ กันตามลำพัง โอคาเบะได้ใช้ปืนของเล่นซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขาไปจ่อหลังของโมเอกะ ไม่ว่าโมเอกะจะรู้หรือไม่ว่านั่นเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม เเต่เธอก็ยอมทำตามที่โอคาเบะบอกเเต่โดยดี โอคาเบะพยายามถามเรื่องSERNเเละเรื่องที่เธอบุกไปทำร้ายพวกเขาที่แล็ป โมเอกะก็บอกว่าเธอได้รับคำสั่งมาจากFB เเต่ก่อนที่โอคาเบะจะได้ไขข้อข้องใจว่า FB คืออะไร เขาก็ถูกตีที่ด้านหลังจนสลบไป
"FB คือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน"

โอคาเบะรุ้สึกตัวอีกทีพบว่าตัวเขาถูกมัดเอา ไว้ในรถตู้ซึ่งจอดอยู่ใกล้กับที่พักของเขา ในที่นี้เอง พวกโมเอกะได้เอาปืนมาข่มขู่เขาเอาไว้ ก่อนที่จะเข้าไปทำการจับกุมมากิเสะกับดาลุพร้อมกับดับลมหายใจของผู้พบเห็น เหตุการณ์อย่างมายูริซะ โอคาเบะพยายามขอร้องให้พวกโมเอกะไว้ชีวิตมายูริจนถึงกับร้องไห้ออกมา นี่คือความเจ็บปวดที่มากที่สุดสำหรับเขาเเล้ว เเต่พวกโมเอกะก็ยังคงนิ่งเฉย เเละทำตามหน้าที่ของตนต่อไป


โอคาเบะพยายามหนีออกมาอีกครั้ง เขายังคงพบฝันร้ายอยู่เหมือนเดิม
โอคาเบะจึงรีบร้อนไปย้อนเวลาด้วยตัวเองโดยหวังว่ามันจะจบลงซะที

เเต่เขาก็หาทางออกจากเขาวงกตนี้ไม่ได้ เมื่อย้อนกลับมาอีกครั้ง โอคาเบะที่สิ้นหนทางจึงคิดจะทำลาย Time Leap Machine ทิ้ง เเต่เขาก็ทำไม่ลง เขาจึงวิ่งหนีออกไปโดยไม่อธิบายอะไรให้พวกมากิเสะฟังเลย

โอคาเบะไปหาลูกะโดยรู้ว่ามายูริกลับไปเเล้ว เขาบอกลูกะว่าเขารู้ดีว่ามายูริเฝ้ารอคอยงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นอย่างสนุก สนานกับทุกคนขนาดไหน เเต่ทุกอย่างมันก็พังทลายหมดเเล้ว ลูกะที่ตกใจกับท่าทางของโอคาเบะที่เเปลกไปก็ไม่รู่จะทำยังไงนอกจากพูดขอโทษ ออกมา การที่โอคาเบะมาโวยวายใส่ลูกะเพื่อเป็นการระบายให้ใครซักคนฟังนั้นอาจจะเป็น เรื่องที่มีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะเจอเรื่องแบบนี้เข้าไปหลายๆครั้งก็ไม่เเปลกเลยที่เขาจะเครียดจนเป็นบ้า

เวลายังคงดำเนินต่อไปอย่างสูญเปล่า มากิเสะได้มาหาโอคาเบะที่กำลังโทษตัวเองอยู่คนเดียวว่าทั้งหมดมันเป็นความ ผิดของเขา ทั้งเรื่องที่ให้ดาลุแฮ็คข้อมูลของSERN ทั้งเรื่องที่เขาคิดจะสร้างไทม์แมชชีน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำล้วนเป็นเรื่องที่ผิดทั้งหมดจนทำให้มายูริต้องเป็น เเบบนี้ ในเวลาแบบนี้ แม้แต่โอคาเบะที่ทำตัวเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาก็ยังจนปัญญาจนต้องหลั่งน้ำตาออก มา

โอคาเบะได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ให้มากิเสะฟัง มากิเสะได้ยินอย่างงั้นจึงคิดจะช่วยอย่างเต็มที่ เพราะมายูริเองก็เป็นเพื่อนคนสำคัญเหมือนกัน เเละถ้าเธอพอจะช่วยอะไรได้ เธอก็อยากจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เเต่โอคาเบะก็ยังคงหมดเรี่ยวแรงที่จะกลับไปหาทางแก้ไขอยู่

มากิเสะจึงโพสท่าบ้าๆบอๆเเละหัวเราะออกมา อย่างมั่นใจเหมือนกับที่โอคาเบะเคยทำมาตลอดเพื่อเตือนสติโอคาเบะว่าโอคาเบะ ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะนั้นมักจะทำตัวไร้สาระเเบบนี้เสมอ เพราะงั้นเขาจึงไม่ควรจะมานั่งซึมเศร้าให้เสียเวลาอยู่เเบบนี้ โอคาเบะเห็นว่ามากิเสะพยายามให้กำลังใจเเละช่วยเหลือเขาจริงๆ เขาจึงพอจะยิ้มออกมาได้
 

ภายในวังวนแห่งฝันร้ายไร้ที่สิ้นสุดนี้ โอคาเบะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เขายังมีเพื่อนพ้องคนสำคัญที่สามารถช่วยเหลือเขาได้อยู่ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เเต่ที่จริงเเล้วพวกเขาก็คอยช่วยเหลือกันมาเสมอ เเละในคราวนี้ มากิเสะก็จะเป็นคนที่ช่วยเหลือโอคาเบะบ้าง

เเต่จะให้ช่วยตอนนี้คงไม่ทัน มากิเสะจึงได้ให้โอคาเบะย้อนเวลากลับไปบอกเรื่องทั้งหมดกับตัวเธอในอดีตอีก ครั้ง เเต่เพื่อให้เป็นการน่าเชื่อถือจริงๆ มากิเสะจึงได้บอกคีย์เวิร์ดลับว่า "ส้อมส่วนตัว" เพราะนั่นคือสิ่งที่เธออยากได้ในตอนนี้หลังจากที่เธอมีช้อนส่วนตัวแล้ว ถ้าบอกเรื่องนี้กับตัวเธอในอดีต คงจะเชื่อแน่นอนว่าโอคาเบะมาจากอนาคต เพราะเธอไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย

โอคาเบะกลับมาวันที่13สิงหาคมเวลาประมาณ บ่าย2 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เขาเคยกลับมา ในตอนนี้เป็นช่วงที่มายูริกำลังทำชุดคอสเพลย์เเละเป็นช่วงที่พวกมากิเสะ เพิ่งทำ Time Leap Machine เสร็จ เขาจึงสั่งให้ทุกคนเเยกย้ายกลับทันที เหลือเพียงเขากับมากิเสะที่จะได้ช่วยกันหาทางช่วยเหลือมายูริได้ หลังจากบอกเรื่อง ส้อมส่วนตัวจนมากิเสะในช่วงเวลานี้เชื่อแล้ว ทั้งคู่ก็พยายามคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น มากิเสะคิดว่าเพราะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นมา ทำให้เสนทางของโลกมันถูกล็อคเอาไว้แบบนี้

สุซุฮะที่แอบฟังอยู่ก็ได้เข้ามาเสริมว่ามา กิเสะพูดถูกเเล้ว เเละเธอยังบอกว่าการที่จะช่วยเหลือโลกนี้นั้นจะต้องไปสู่ข้อมูลเส้นทางของ โลกด้วยการข้ามผ่านเส้นป้้องกันความแตกต่างเพียง1%

สุซุฮะได้พาพวกโอคาเบะมาที่ตึกวิทยุเเละเอา มิเตอรที่มีลักษณะเหมือนหลอดเเก้วเล็กๆแปดหลอดวางเรียงรายอยู่ให้พวกโอคาเบะ ดู ภายในหลอดเเก้วเล็กๆพวกนั้นได้มีตัวเลขขึ้นแสดงเอาไว้ "0.337187" นั่นคือเวลาของช่่วงเวลานี้ สุซุฮะบอกว่าคนที่สร้างมันขึ้นมาคือโอคาเบะนั่นเอง เพราะความแตกต่างของช่วงเวลานั้นอาจเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ โอคาเบะที่มีพลังในการย้อนเวลาเเละส่งความทรงจำกลับไปในอดีตได้ ทำให้ตัวโอคาเบะในอนาคตได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา เเละสุซุฮะก็ได้โยนเชือกเส้นหนาสำหรับปีนป่ายขึ้นไปเกี่ยวเพดานสองเส้น ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบว่าเส้นทางของโลกมันก็เหมือนกับเชือกเส้นแรก ภายในการปีนขึ้นสู่เชือกเส้นนี้นั้นจะมีเส้นทางที่สลับซับซ้อนมากมาย เเต่ในโอกาสเพียง1% เส้นทางของโลกก็อาจจเปลี่ยนไปหาเชือกเส้นที่สองก็เป็นได้

สุซุฮะได้พาพวกโอคาเบะเข้าในตึกวิทยุ ที่ซึ่งชั้นบนสุด หากยังจำกันได้ ดาวเทียมขนาดยักษ์ได้ตกลงมาที่นี่ สุซุฮะได้เดินไปที่ดาวเทียมยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าพร้อมบอกว่าการที่จะข้ามผ่าน ช่วงเวลาจากช่วงหนึ่งสู่อีกช่วงหนึ่งนั้นเเทบเป็นไปไม่ได้เลย เเต่ความสำเร็จในการสร้างไทม์แมชชีนในตอนนี้ ทำให้ในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้เเล้ว สุซุฮะได้สัมผัสที่ตัวดาวเทียมขนาดใหญ่นั้น ทำให้พวกโอคาเบะพบว่ามันสามารถเปิดประตูออกมาได้จนเหมือนมีห้องอยู่ข้างใน


"นี่คือไทม์แมชชีน ฉันมาจากปี2036
เเละฉันคือผู้เดินทางข้ามกาลเวลา"



"จอห์น ไตเตอร์ ไงล่ะ"


ในที่สุดความจริงที่เก็บซ่อนเอาไว้มาอย่างยาวนานก็ได้เปิดเผยออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามชมตอนต่อไป


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น